(เพิ่มเติม) ธปท.ระบุเศรษฐกิจ ส.ค.58 ยังอ่อนแอจากส่งออกหด-ท่องเที่ยวขยายตัวต่ำลง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 30, 2015 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจเดือน ส.ค.58 กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังอ่อนแอ การส่งออกสินค้าหดตัวมากขึ้นจากความต้องการจากจีนและอาเซียนที่ชะลอตัว จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวในอัตราที่ต่ำลง ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมยังสะท้อนความระมัดระวังในการใช้จ่ายของครัวเรือนสอดคล้องกับรายได้ครัวเรือนที่ลดลง โดยเฉพาะรายได้นอกภาคเกษตร และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เปราะบาง

ส่วนการลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการนำเข้าสินค้าทุนและยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมก็ปรับเพิ่มขึ้น แต่ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากปัจจัยชั่วคราว สำหรับภาครัฐยังใช้จ่ายได้ต่อเนื่อง แม้แรงส่งจะลดลงบ้างหลังจากเร่งไปในช่วงก่อน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบมากขึ้นจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง อัตราการว่างงานทรงตัว โดยแรงงานบางส่วนย้ายกลับเข้าสู่ภาคเกษตรหลังปริมาณน้ำฝนเอื้อต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลต่อเนื่องตามการนำเข้าที่อยู่ในระดับต่ำ

ธปท.ระบุว่า ในเดือน ส.ค.58 การส่งออกสินค้ายังคงซบเซา สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำที่หดตัวร้อยละ 9.5 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการหดตัวที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วในเกือบทุกหมวดสินค้าที่สำคัญ ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ และปิโตรเคมีเนื่องจากอุปสงค์ประเทศคู่ค้าชะลอลงโดยเฉพาะจีน และอาเซียน อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง 2) สินค้าเกษตร จากข้าวที่อุปสงค์โลกชะลอตัว และมันสำปะหลังที่แม้ความต้องการจากจีนยังสูงแต่ผลผลิตในไทยมีจำกัดเนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว

และ 3) ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ผู้บริโภคในตลาดโลกเปลี่ยนไปนิยมสินค้าที่ใช้โซลิดสเตทไดรฟ์เป็นส่วนประกอบมากขึ้น อย่างไรก็ดีการส่งออกสินค้าบางหมวดยังขยายตัวได้ อาทิ รถยนต์โดยเฉพาะอีโคคาร์และรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำไปผลิตและประกอบเป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ประเภทโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต

ภาคการท่องเที่ยวชะลอตัว เพราะเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ และความไม่สงบทางการเมืองในมาเลเซียส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในเดือนนี้ลดลงจากเดือนก่อนตามจำนวนนักท่องเที่ยวเอเชียเป็นหลัก อย่างไรก็ดี จำนวนนักท่องเที่ยวยังสูงกว่าในเดือนเดียวกันปีก่อน และตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนเป็นต้นมาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศปรับดีขึ้น โดยมีแนวโน้มจะกลับเป็นปกติในอีก 2 - 3 เดือน

นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส สายนโยบายการเงิน ธปท.กล่าวถึงเงินบาทที่ยังอ่อนค่าลงในเดือน ส.ค.ว่า เงินบาทอ่ออนค่าในระดับกลาง ๆ เมื่อเทียบกับภูมิภาค ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น แต่เชื่อว่าคงไม่น่าจะมีผลต่อการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้มากนัก เพราะค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทยในปัจจุบันก็มีทิศทางอ่อนค่าเช่นเดียวกัน

ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อย แต่โดยรวมยังสะท้อนถึงความระมัดระวังในการใช้จ่ายของครัวเรือน เนื่องจากรายได้นอกภาคเกษตรปรับลดลง และรายได้เกษตรกรตกต่ำต่อเนื่อง รวมทั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังเปราะบาง เมื่อประกอบกับการที่สถาบันการเงินยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ การใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนที่มีมูลค่าสูง อาทิ รถยนต์ จึงยังอยู่ในระดับต่ำ สอดคล้องกับสินเชื่อยานยนต์ที่หดตัวต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องชี้การใช้จ่ายในหมวดสินค้ากึ่งคงทนทรงตัวจากเดือนก่อน และหมวดสินค้าไม่คงทนขยายตัวบ้างจากการบริโภคน้ำมันและหมวดบริการ โดยเฉพาะด้านการขนส่งและการสื่อสาร

อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ยังไม่เข้มแข็งและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ลดลงส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนภาคเอกชนยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะปรับดีขึ้นบ้างจากเดือนก่อนแต่ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว ตามการกลับมาทยอยผลิตรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่หลังเสร็จสิ้นการปรับเปลี่ยนสายการผลิตรวมทั้งการสะสมสต็อกของสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นเล็กน้อยตามการลงทุนด้านเครื่องจักร โดยมีการนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นตามการซื้อรถยนต์เชิงพาณิชย์รุ่นใหม่ส่วนการลงทุนด้านก่อสร้างทรงตัวจากเดือนก่อนเนื่องจากผู้ประกอบการยังรอประเมินกำลังซื้อของผู้บริโภคเป็นหลัก

การนำเข้าสินค้ามีมูลค่าลดลง 10.8% จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการนำเข้าน้ำมันดิบที่ราคาปรับลดลง ขณะที่การนำเข้าสินค้ากลุ่มอื่นๆ แม้ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับต่ำสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

การใช้จ่ายภาครัฐทำได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะแผ่วลงบ้างหลังจากที่เร่งเบิกจ่ายไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า โดยการเบิกจ่ายงบประจำยังคงขยายตัวตามการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ รวมทั้งการซื้อสินค้าและบริการ ขณะที่การเบิกจ่ายงบลงทุนทั้งในและนอกงบประมาณทำได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะโครงการขนาดเล็ก ด้านคมนาคม ขนส่ง และชลประทาน ส หรับรายได้รัฐบาลเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.7 จากระยะเดียวกันปีก่อนตามการปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตน้ มันดีเซล และการนำส่งรายได้แผ่นดินเพิ่มเติมจากรัฐวิสาหกิจตามนโยบายของกระทรวงการคลัง

ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ -1.19% เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงเป็นสำคัญ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.89% ชะลอลงเล็กน้อยจากการปรับลดค่าโดยสารสาธารณะตามต้นทุนน้ มัน ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยมีแรงงานบางส่วนย้ายกลับเข้าสู่ภาคเกษตรหลังปริมาณน้ำฝนเอื้อต่อการเพาะปลูกข้าวนาปีมากขึ้น

ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.6 พันล้านดอลลาร์สรอ. จากการนำเข้าสินค้าที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลจากการปรับฐานะเงินตราต่างประเทศของสถาบันการเงิน และการขายหลักทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ โดยรวมแล้วดุลการชำระเงินขาดดุล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ