สศก.วางมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว-ยาง-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์-สับปะรด หลังราคาตกต่ำ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 13, 2017 10:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำว่า เป็นผลมาจากอุปสงค์หรือความต้องการสินค้าเกษตรมีน้อยกว่าอุปทานหรือปริมาณผลผลิตในแต่ละฤดูกาล โดยเฉพาะในช่วงที่ผลผลิตออกมาพร้อมกันมากที่สุด (Peak)ซึ่งรัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยใช้ตลาดนำการผลิตหรือผลิตตามตลาดต้องการ รวมทั้งแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม และส่งเสริมระบบตลาดออนไลน์

สำหรับสินค้ายุทธศาสตร์ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของเกษตรกรและประเทศ รัฐบาลได้มีมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาและรายได้ของเกษตรกร เช่น ข้าวมีแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี2560/61เช่น ส่งเสริมนาแปลงใหญ่และเชื่อมโยงตลาดข้าวGAP/อินทรีย์ ปลูกพืชอาหารสัตว์ทดแทนนาข้าว ปลูกพืชหลากหลาย/พืชปุ๋ยสดลดรอบนาปรัง รวมทั้งประกันภัยข้าวนาปี เป็นต้น

สับปะรด ได้ประสานโมเดิร์นเทรดช่วยรับซื้อสับปะรดเพิ่มเติมจากปกติ และให้โรงงานแปรรูปสับปะรดเพิ่มการรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลจากโรงงาน เช่น ภาคเหนือ ซึ่งสถานการณ์ราคาได้คลี่คลายแล้ว

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีแนวทางบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบอื่นทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และได้ประสานให้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยรับซื้อจากเกษตรกรไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8.00 บาท ที่ความชื้น 14.5% (ราคาณ กรุงเทพฯและปริมณฑล) และเพิ่มช่องทางพิเศษให้สถาบันเกษตรกรนำผลผลิตมาจำหน่ายได้โดยตรง รวมทั้งพยายามแก้ไขปัญหาปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เป็นต้น

ในส่วนของยางพาราในปี 2560 ได้เร่งรัดการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้นโดยเฉพาะในหน่วยงานของรัฐ คาดว่าปริมาณความต้องการน้ำยางข้น 22,300 ตัน และยางแห้ง 2,900 ตัน ซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นในปี2561รวมทั้งขณะนี้ กยท. ร่วมกับเอกชน กำลังจัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง และเชื่อมโยงตลาดท้องถิ่น (108แห่ง) ตลาดกลาง (6แห่ง) และตลาดภูมิภาค (3ประเทศ) ด้วยการซื้อขายยางผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ