(เพิ่มเติม) ผู้ว่า ธปท.ระบุเงินเฟ้อยังไม่เข้าสู่กรอบเป้าหมายไร้แรงกดดันให้เร่งขึ้นดอกเบี้ย-ขอรอศก.ฟื้นอย่างกระจายตัวก่อน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 21, 2018 15:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของไทยว่า ขณะนี้อัตราเงินเฟ้อยังไม่เข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ทางการกำหนดไว้ ทำให้ยังไม่มีแรงกดดันให้ต้องเร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังเติบโตแบบกระจุกตัว ดังนั้น คงต้องรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวแบบกระจายตัวเสียก่อน

"การทำนโยบายมุ่งตอบโจทย์เศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก...ยังไม่ต้องรีบขึ้นดอกเบี้ยเพราะไทยยังมีกันชน ไม่เหมือนเศรษฐกิจเกิดใหม่ แต่ก็ไม่ได้ชะล่าใจ"ผู้ว่าการ ธปท.กล่าว

ทั้งนี้ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศที่ทยอยปรับขึ้น ทำให้เกิดความเสี่ยงกับประเทศเศรษฐกิจใหม่ หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยทรงตัวอยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานานทำให้มีการก่อหนี้ต่างประเทศสูง เมื่อดอกเบี้ยเริ่มพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นจึงเริ่มมีผลกต่อการชำระหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชน

ในส่วนของประเทศไทยก็มีความระมัดระวังต่อเนื่องและยังมีกันชนค่อนข้างดี โดยไม่ได้มีการพึ่งเงินตราต่างประเทศเป็นหลัก การก่อหนี้ต่างประเทศไม่ได้สูงมานัก และต่างชาติถือครองพันธบัตรของไทยไม่มากประมาณ 10% เมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่มีต่างชาติถือครองเฉลี่ย 30-40% ทุนสำรองระหว่างประเทศสูงกว่าหนี้ระยะสั้น 3.5 เท่า และดุลบัญชีเดินสะพัดปีนี้คาดว่าจะเกินดุล 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 8-9% ของจีดีพี ทำให้ ธปท. ความคล่องตัวในการทำนโยบายการเงินเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจประเทศ

สำหรับความเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ว่าธปท. กล่าวว่า ไทยมีการใช้ค่าเงินแบบลอยตัว ดังนั้น จึงเป็นเรื่องของปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกับไทย แต่ในระยะต่อไปก็น่าจะยังคงมีความผันผวน จึงเน้นย้ำให้ภาคเอกชนบริหารความเสี่ยงให้ดี อย่าชะล่าใจ เพราะ ธปท.จะดูแลเพียงไม่ให้ค่าเงินเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไปเท่านั้น

นายวิรไท กล่าวถึงมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศขนาดใหญ่ว่า แม้ไทยจะไม่ใช่เป้าหมายโดยตรง แต่มีการส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ เพื่อผลิตส่งออกต่อไปยังประเทศขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสหรัฐ เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเทคโนโลยี ก็จะได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ ธปท.จะต้องติดตามต่อไป

"สงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะมีความระมัดระวังในการขยายการผลิต โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ๆ ในต่างประเทศ ส่วนแนวโน้มการส่งออกของไทย จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เห็นวาในปีนี้ดีขึ้นเกินคาด จึงมีการปรับประมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านต่ำจากปัญหาสงครามการค้าที่ต้องติดตาม"ผู้ว่าการ ธปท. กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ