สศก. เกาะติดสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หลังผลผลิตรุ่น 1 ทยอยออกสู่ตลาดส.ค.นี้ คาดทั้งปีอยู่ที่ราว 5 ล้านตัน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 24, 2018 10:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2561 (ปีเพาะปลูก 2561/62) คาดว่าผลผลิตรวมทั้งประเทศ คาดว่าจะอยู่ที่ 5.003 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีจำนวน 4.957 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 0.92%) ผลผลิตต่อเนื้อที่เพาะปลูกทั้งประเทศ 746 กิโลกรัมต่อไร่เพิ่มขึ้น จากปีที่แล้วที่ให้ผลผลิต 738 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 1.08%)

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของ สศก. ร่วมกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว นครราชสีมา เพชรบูรณ์ และนครสวรรค์ คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากฝนไม่ทิ้งช่วง ปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเจริญเติบโต โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มากที่สุดของประเทศ (12.5%) มีเนื้อที่เพาะปลูก 845,258 ไร่ ลดลงจากปีก่อนซึ่งมีเนื้อที่ 851,132 ไร่ (ลดลง 0.69%)มีผลผลิต 655,448 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่จำนวน 654,018 ตัน (เพิ่มขึ้น 0.22%) ผลผลิตต่อเนื้อที่เพาะปลูก 775 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ให้ผลผลิต768 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 0.91%) ทั้งนี้จังหวัดเพชรบูรณ์มีแปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 8 แปลง เนื้อที่ 14,973 ไร่ ผลผลิตประมาณ 11,140 ตัน

"ผลผลิตรุ่น 1 เริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้วในเดือนสิงหาคมนี้ และจะออกมากช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน"

สำหรับเนื้อที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รุ่น 1 (ปลูกระหว่าง มีนาคม – ตุลาคม) คาดว่าลดลงเนื่องจากต้นทุนการผลิตสูง เช่น ราคาเมล็ดพันธุ์ และสารเคมี เป็นต้น เกษตรกรจึงปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปปลูกมันสำปะหลังโรงงานและอ้อยโรงงานเพราะราคาจูงใจ

ด้านราคาที่เกษตรกรขายได้ความชื้น 14.5 ในช่วงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2561 อยู่ที่กิโลกรัมละ 8.23 บาท เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 6.26 บาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.47%

ทั้งนี้ รัฐบาลโดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) กำหนดให้คงสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศในอัตราส่วน 1 : 3 ยกเว้นเฉพาะช่วงระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน – 15 สิงหาคม กำหนดสัดส่วนในอัตรา 1 : 2 เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวมีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย และเพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก โดยมาตรการดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์และตามความเหมาะสม ทั้งยังได้ขอความร่วมมือให้โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ความชื้น 14.5% ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 8 บาท ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ ปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ต้องมีการนำเข้าวัตถุดิบทดแทน เช่น ข้าวสาลี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูแล้งหลังนาปี 2561 หรือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 2 (ปลูกระหว่าง พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) ในพื้นที่ 32 จังหวัด บริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมหารือกับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ สมาคมเมล็ดพันธุ์ กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อให้ภาคเอกชนร่วมมือในการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาในราคาขั้นต่ำ ณ ความชื้น 30% ที่ราคา 5 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมนี้ได้มีการหารือแนวทางการดำเนินการประกันภัยให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาในพื้นที่ 2 ล้านไร่ ระยะเวลาคุ้มครองเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561- เมษายน 2562 ดำเนินการผ่านสมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยแนวทางและมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกันยายนนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ