ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.92 ตลาดไร้ปัจจัยใหม่ รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯคืนนี้-ความชัดเจนผลการเจรจาการค้า มองกรอบ 31.85-32.00

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 11, 2019 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.92 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 31.91 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.87-31.96 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้เงินบาทวิ่งค่อนข้างกว้าง แต่ก็ยังคงไร้ปัจจัยใหม่ๆ หลังประธานเฟดออกมาย้ำชัดเจนว่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย ส่วนสงครามการค้าแม้ว่าการเจรจาจะยุติลงแล้วแต่รายละเอียดที่ออกมายังค่อนข้างน้อยคงต้องรอดูกันต่อไป" นักบริหารเงิน ระบุ

ส่วนคืนนี้จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของสหรัฐฯ

นักบริหารเงิน คาดกรอบความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า 31.85 - 32.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.31 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 108.37 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1522 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ 1.1520 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,597.04 จุด เพิ่มขึ้น 9.41 จุด, +0.59% มูลค่าการซื้อขาย 45,172.76 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 947.28 ลบ.(SET+MAI)
  • ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ชี้แจงกรณีที่มีการแสดงความกังวลเรื่องวินัย
การคลังตามกรอบของคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังที่มีการกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะไม่เกิน 60% ของจีดีพีนั้นมีความหละหลวม
ว่า การกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยในปัจจุบันสอดคล้องกับการกำหนดเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีดีในระดับสากล โดยการกำหนดสัด
ส่วนดังกล่าวเป็นเครื่องมือที่กระทรวงการคลังใช้ในการบริหารหนี้สาธารณะตลอดมา และได้มีการทบทวนสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีตามพื้น
ฐานทางเศรษฐกิจและนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาล
  • ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ได้พิจารณามาตรการสำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบราง และการปรับปรุงเงื่อนไขและเพิ่มกิจการท่อง
เที่ยวใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกระจายรายได้และสร้างโอกาสในการลงทุนสู่ภูมิภาค รวมทั้งเพื่อสร้างความเชื่อมโยงเทคโนโลยีและนวัต
กรรมไปสู่การท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น
  • โฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 31 ธ.
ค.61 งบประมาณภาพรวมใช้จ่ายแล้วจำนวน 1,041,586 ล้านบาทของวงเงินงบประมาณ 3,000,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34.7% สูง
กว่าเป้าหมาย 2.7% โดยรายจ่ายประจำใช้จ่ายแล้วจำนวน 833,424 ล้านบาทของวงเงินงบประมาณ 2,353,121 ล้านบาท หรือคิด
เป็น 35.4% ต่ำกว่าเป้าหมาย 0.6% สำหรับรายจ่ายลงทุน (กรณีไม่รวมงบกลาง) ใช้จ่ายแล้วจำนวน 208,163 ล้านบาทของวงเงินงบ
ประมาณ 558,158 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32.2% สูงกว่าเป้าหมาย 12.2%
  • อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บภาษีสรรพากรสะสมในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2562 (ต.
ค.-ธ.ค.61) เก็บได้ 412,391 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 41,709 ล้านบาท หรือ 11.3% และสูงกว่าประมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากร
ตามเอกสารงบประมาณ 28,006 ล้านบาท หรือ 7.3%
  • รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดจะประเมินทิศทางการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกอย่าง
ครอบคลุม แต่เฟดจะไม่ประเมินสถานการณ์นานเกินไป เพราะมิเช่นนั้นอาจทำให้ปรับนโยบายการเงินรองรับปัญหาดังกล่าวได้ช้าเกินแก้
  • อดีตรองประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า จีนจะสามารถรักษาอัตราเติบ
โตของเศรษฐกิจที่ระดับประมาณ 6.5% และมีส่วนช่วยในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกถึง 30% ต่อไปได้
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐ คาดการณ์ว่า คณะผู้แทนเจรจาการค้าระดับสูงของจีนจะเดินทางเยือนสหรัฐในเดือนนี้ นับเป็นการส่ง
สัญญาณว่า การเจรจาการค้าระดับสูงระหว่างสองประเทศมีแนวโน้มเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้แทนทั้ง 2 ประเทศได้ประชุมร่วมกันเป็นเวลา 3
วัน ตั้งแต่วันที่ 7-9 ม.ค.ที่ผ่านมา
  • รองประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า ความร่วมมือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับรัฐบาลจีนและสหรัฐอเมริกา หลังจากเสร็จสิ้นการ
หารือทางการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับกลางของทั้งสองประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่เป็นบวก พร้อมกับย้ำว่าจีนจะยังคงยึดมั่น
ในแนวทางของตน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ