เคพีเค ซึ่งเป็นคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อาจพบผู้ต้องสงสัยรายใหม่ในคดีติดสินบนของผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียและสมาชิกรัฐสภา
"หากมีหลักฐานเพียงพอ เราอาจพบผู้ต้องสงสัยเพิ่มขึ้น ขณะนี้เรากำลังอยู่ในขั้นรวบรวมหลักฐาน" อันตาซารี อาชาร์ ประธานเคพีเคกล่าวต่อผู้สื่อข่าว
โดยก่อนหน้านี้นายเบอร์ฮานุดดีน อับดุลเลาะห์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย นายโอย ฮอง เทียง ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายของธนาคารกลาง และรัสลี สีมานจันทัค อดีตหัวหน้าฝ่ายสื่อสารของธนาคารกลางตกเป็นผู้ต้องสงสัยของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของอินโดนีเซีย
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า จากข้อกล่าวหาในเอกสารที่คณะกรรมการเปิดเผย ผู้บริหารทั้งสามมีส่วนพัวพันกับการใช้กองทุนของธนาคารกลางกว่า 1 แสนล้านรูเปียห์ไปในทางมิชอบ
โดยจำนวนเงินประมาณ 3.15 หมื่นล้านรูเปียห์ได้ถูกส่งไปยังสมาชิกรัฐสภาในช่วงการพิจารณากฎหมายการคลังในปี 2547 ซึ่งมาจากบัญชีมูลนิธิพัฒนาธนาคารของธนาคารกลางอินโดนีเซีย เพื่อเป็นทางผ่านในการพิจารณากฎหมายให้เป็นไปด้วยความราบรื่น
ส่วนจำนวนเงินที่เหลือ 6.85 หมื่นล้านรูเปียห์ คาดว่าอาจถูกใช้ในการจ้างทนายความเพื่อแก้ต่างในคดีหนุนสภาพคล่องของธนาคารกลางในช่วงปี 2546-2547 ซึ่งเกี่ยวข้องกับอดีตผู้ว่าการและรองผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์:
[email protected]