นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจติดตามความก้าวหน้าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงเตาปูน – ท่าพระ ที่สถานีสนามไชยว่า จะมีการเปิดทดลองเดินรถ โดยให้ประชาชนได้ร่วมใช้บริการฟรีช่วงหัวลำโพง – บางแค ในวันที่ 12 ส.ค. 62 และเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ ภายในเดือนก.ย. 62 ส่วนช่วงเตาปูน – ท่าพระ จะทดลองการเดินรถในวันที่ 1 ม.ค. 63 และเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์ ในเดือนมี.ค. 63
"ขณะนี้การดำเนินงานด้านระบบไฟฟ้าต่างๆ เกือบจะแล้วเสร็จ และอยู่ในช่วงการทดลอง ซึ่งบมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ได้ทยอยนำขบวนรถใหม่เข้าทดสอบ เพื่อความมั่นใจในการให้บริการ"ปัจจุบันสายสีน้ำเงินที่เป็นระบบใต้ดิน มี 19 สถานี รวมส่วนต่อขยาย จะมีทั้งสิ้น 38 สถานี มีระยะทางรวม 48 กม. ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่สำคัญเนื่องจากวิ่งเป็นวงกลม จะเพิ่มจุดเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร ช่วยลดความแออัดของสถานีร่วมเช่น ที่สยาม เป็นต้น ขณะเมื่อเปิดเดินรถสายสีน้ำเงินครบเป็นวงกลม จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารสายสีม่วง กรณีเดินทางเข้าเมือง ผู้โดยสารจะมีทางเลือกเพราะสามารถมาต่อสายสีน้ำเงิน
นอกจากนี้ ในวันที่ 12 ส.ค.62 นี้จะมีการเปิดทดลองเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วง สถานีหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าว จำนวน 1 สถานีอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการให้บริการฟรี เช่นกัน
นายไพรินทร์ กล่าวถึงค่าโดยสารรถไฟฟ้าประเทศไทยสูงกว่าประเทศอื่น เช่น สิงคโปร์ ว่า ในระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 16 บาทสูงสุด ไม่เกิน 42 บาท กรณีใช้สายสีน้ำเงินต่อกับสีม่วงค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 70 บาทตลอดสาย โดยยกเว้นค่าแรกเข้าที่ 16 บาท ภาพรวมค่าโดยสารเมื่อเทียบกับระยะทางกว่า 70 กม. มีความเหมาะสมระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ กรณีที่ผู้โดยสารที่ไม่ได้ใช้บริการประจำ อาจจะรู้สึกราคาสูง แต่หากใช้ประจำ มีจะมีระบบตั๋วเดือนที่จะมีราคาถูกลงจากตั๋วเที่ยวเดียว และถูกกว่าเมื่อเทียบกับระบบขนส่งอื่นเช่นจักรยานยนต์รับจ้าง
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเพิ่งลงทุนระบบรถไฟฟ้า ต้นทุนปัจจุบันสูงกว่าแต่ได้ระบบที่ใหม่และทันสมัยกว่า มีประสิทธิภาพสูงกว่านอกจากนี้ไทยมีหลายผู้ให้บริการ ซึ่งมีเงื่อนไขสัญญา ทั้งนี้ เรื่องโครงสร้างค่าโดยสารรถไฟฟ้าในอนาคต จะเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางราง ที่จะนำข้อเท็จจริงทางวิชาการมาพิจารณาค่าโดยสารโดยเฉพาะระบบที่เชื่อมต่อกัน แต่ผู้ให้บริการคนละราย
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ปัจจุบัน รฟม. อยู่ระหว่างเร่งการดำเนินงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า (M&E Work) ซึ่งมีความคืบหน้าไปกว่า 80.63% โดยแบ่งเป็นความคืบหน้างานระบบรถไฟฟ้าช่วงหัวลำโพง – บางแค 89.73% และช่วงเตาปูน – ท่าพระ 68.69% (ณ สิ้นเดือนพ.ค.62)
สำหรับความคืบหน้าในการจัดหาขบวนรถไฟฟ้านั้น บริษัทผู้ผลิตได้ขนส่งรถไฟฟ้าขบวนใหม่มาถึงยังประเทศไทยภายในสัปดาห์นี้จะมีจำนวน 4 ขบวน (3 ตู้ต่อขบวน) และจะทยอยส่งมอบอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนก.ค.62 จะมีขบวนรถไฟฟ้ามาเพิ่มเป็น 10 ขบวน ในเดือนก.ย.62 จะมีขบวนรถไฟฟ้ามาเพิ่มเป็น 16 ขบวน และในเดือนม.ค.63 จะมีรถประมาณ 30 ขบวน ในเดือนก.พ.63 จะมีขบวนรถไฟฟ้ามาเพิ่มจนครบทั้งหมด 35 ขบวน
"ปัจจุบัน รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน MRT มีผู้โดยสารกว่า 3 แสนคน/วัน คาดว่าเปิดเดินรถส่วนต่อขยายครบวงกลม จะทำให้ผู้โดยสารของสายสีน้ำเงินทั้งหมดขึ้นเป็น 8 แสนคน/วัน"สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงเตาปูน – ท่าพระ ใช้ระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Heavy Rail Transit System) ที่มีความจุสูง มีระยะทางรวมประมาณ 27 กิโลเมตร โดยโครงการฯ มีแนวเส้นทางต่อขยายจากรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง – บางซื่อ) ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน ออกไป 2 ทิศทาง ได้แก่ ช่วงหัวลำโพง – บางแค ระยะทาง 16 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งใต้ดินจำนวน 4 สถานี และโครงสร้างทางวิ่งยกระดับจำนวน 7 สถานี และช่วงเตาปูน – ท่าพระ ระยะทาง 11 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับทั้งหมด จำนวน 8 สถานี ซึ่งจะทำให้แนวเส้นทางของรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงินมีลักษณะเชื่อมต่อกันเป็นวงแหวนขนาดใหญ่ หรือ Circle Line ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น