BAY คาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 30.50-30.80 จับตามาตรการ ECB หลังเงินยูโรอ่อนค่า

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 9, 2019 15:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 30.50-30.80 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 30.66 บาท/ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย 3.5 พันล้านบาท และ 1.16 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับเยน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นและสินทรัพย์เสี่ยงได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐฯ และจีนจะหาทางยุติสงครามการค้ารวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งเกินคาด

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า ตลาดจะจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) วันที่ 12 ก.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงและส่งสัญญาณการดำเนินโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์รอบใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี เงินยูโรอ่อนค่าลงนับตั้งแต่การประชุมเมื่อเดือนก.ค. สะท้อนคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ดังนั้น มาตรการของอีซีบีอาจไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นแรงขายเงินยูโรรอบใหม่

นอกจากนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ หลังจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แย่กว่าคาด ไม่กระทบดอลลาร์มากนัก และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่วนเงินปอนด์มีแนวโน้มผันผวนสูงแม้ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี หลังสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ อนุมัติร่างกฎหมายเลื่อนเส้นตาย Brexit ออกไปเป็นครั้งที่สาม โดยมองว่าความหวังที่จะหาทางออกที่ราบรื่นของ Brexit อาจเป็นเพียงการยื้อเวลาความไม่แน่นอนออกไป

สำหรับปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2562 จะเพิ่มขึ้น 0.8-0.9% ต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยเป็นผลจากฐานราคาน้ำมันที่สูงในปี 2561 และเงินบาทแข็งค่า ส่วนอุปสงค์ในประเทศมีสัญญาณชะลอตัว ทั้งนี้ ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับ 0.87% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.55% เราคาดว่ากนง. มีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนมากขึ้นและส่งสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในการประชุมเดือน ก.ย. เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัจจัยภายนอกมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งมองว่า กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 1.25% ภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ