กพช.เห็นชอบบังคับใช้มาตรฐาน B10 ส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลมีผล 1 ม.ค.63

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 11, 2019 15:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า ที่ประชุม กพช.เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ของประเทศ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง รวมถึงช่วยลดมลภาวะทางอากาศจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จึงเห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล โดยเริ่มขยายส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ให้ต่ำกว่า B7 ที่ 2 บาท/ลิตร และลดส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมัน B20 ให้ต่ำกว่าน้ำมัน B7 ที่ 3 บาท/ลิตร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.62 เป็นต้นไป

พร้อมกันนี้ยังเห็นชอบการบังคับใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเกรดพื้นฐาน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 โดยให้น้ำมัน B7 และ B20 เป็นทางเลือก โดยมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ บริหารจัดการผลผลิตปาล์มน้ำมันเพื่อใช้บริโภค และให้กระทรวงพลังงานบริหารจัดการการใช้ไบโอดีเซลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง ติดตามปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล และประกาศคุณภาพไบโอดีเซลเป็นชนิดเดียวที่สามารถนำมาผลิตน้ำมันดีเซลได้ทุกเกรด ภายในวันที่ 1 ม.ค.63

ทั้งนี้ คาดว่าเดือน ธ.ค.62 จะมีปริมาณการใช้ไบโอดีเซล (B100) ที่ระดับ 6.2 ล้านลิตร/วัน ช่วยดูดซับการใช้ CPO 167,360 ตัน/เดือน ซึ่งปริมาณ CPO คงเหลือในปัจจุบันและผลผลิตตามที่คาดการณ์ไว้จะรองรับการผลิต B100 ได้เพียงพอ โดยมีผู้ผลิต B100 สำหรับใช้ผสมเพื่อผลิตเป็น B10 ได้ 9 ราย กำลังการผลิตรวมประมาณ 6.9 ล้านลิตร/วัน ปัจจุบันมีจำนวนรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงดีเซลประมาณ 10 ล้านคัน เป็นรถยนต์ที่ค่ายรถยนต์รับรองว่าใช้ B10 ได้ประมาณ 5.2 ล้านคัน หรือครึ่งหนึ่งของรถดีเซลทั้งหมด โดยผู้ค้าน้ำมันที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมัน B10 มีความพร้อมและสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐ

รมว.พลังงาน กล่าวอีกว่า ที่ประชุม กพช.ยังเห็นชอบกรอบนโยบายการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้การดำเนินงานเกี่ยวกับการแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จากสถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (องค์การมหาชน) เป็น "สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง" ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดชะงักเพื่อให้การรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง และมอบหมายให้สำนักงานกองทุนฯ เร่งจัดทำแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและแผนยุทธศาสตร์กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเสนอ กพช. ให้ความเห็นชอบ

รวมทั้งเร่งดำเนินการออกประกาศหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 และเพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนฯ บรรลุตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย และเห็นชอบ (ร่าง) คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ ../2562 เรื่อง กำหนดมาตรการแก้ไขและป้องกันภาวะการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงให้นำเสนอนายกรัฐมนตรีต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ