(เพิ่มเติม) นายกฯ ตรวจความพร้อมสถานีกลางบางซื่อ-ทดลองเดินรถไฟสายสีแดง 15 ธ.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 3, 2020 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เตรียมนำคณะรัฐมนตรี เยี่ยมชมความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ และทดลองนั่งรถไฟสายสีแดงจากสถานีบางซื่อไปยังสถานีดอนเมือง ในวันอังคารที่ 15 ธ.ค.63 หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อตรวจสอบความพร้อมก่อนจะเปิดให้บริการประชาชนในเดือนมี.ค.64

ทั้งนี้ เมื่อการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อเสร็จสมบูรณ์ จะกลายเป็นศูนย์กลางระบบรางที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โดยจะเป็นการเชื่อมโยงระบบคมนาคมทั้งระบบ ทั้งในส่วนรถไฟความเร็วสูง รถไฟเชื่อมสนามบิน รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟฟ้าบีทีเอส แอร์พอร์ตเรลลิงก์ และเชื่อมโยงไปถึงรถ บขส.ด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และเพิ่มความสะดวกในการเดินทางให้กับคนไทย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับการตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อและรถไฟสายสีแดง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จะตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าต่างๆ และจะร่วมทดสอบการเดินรถไฟสายสีแดง โดยนายกฯ พร้อมครม.จะร่วมทดลองนั่งรถไฟสายสีแดง จากสถานีกลางบางซื่อ- สถานีดอนเมือง คาดว่าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที จากนั้นจะกลับมาที่สถานีบางซื่ออีกครั้ง เพื่อให้เห็นภาพรวมของความก้าวหน้าทั้งหมด

สำหรับโครงการรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-ตลิ่งชันนั้น มีกำหนดการทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ในเดือนมี.ค.64 โดยจะเป็นการวิ่งทดสอบ ซึ่งยังไม่เปิดให้บริการทั่วไป เนื่องจากจะยังไม่มีการกำหนดตารางเดินรถชัดเจน โดยประชาชนที่ต้องการเข้ามาร่วมทดลอง จะต้องลงทะเบียนเข้ามาก่อน โดยคาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ประมาณต้นปี 64 จากนั้นในเดือนก.ค. 64 จะเป็นการทดลองเดินรถเสมือนจริงแบบกำหนดตารางเวลาเดินรถ และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในเดือนพ.ย. 64

ส่วนกรณีค่าก่อสร้างงานโยธาเพิ่มเติม หรือ Variation Order (VO) ซึ่งเกินกรอบวงเงินงบประมาณนั้น รมว.คมนาคม จะไม่กระทบต่อการเปิดเดินรถสายสีแดง เพราะถือเป็นสัญญางานก่อสร้าง ซึ่งเป็นคนละส่วนกันกับการเปิดเดินรถ ไม่ได้ผูกกัน ซึ่งค่างานก่อสร้างที่เพิ่มประมาณ 10,345 ล้านบาท เป็นค่าภาษีมูลค่าเพิ่มประมาณ 3,000 ล้านบาท และเป็นงานก่อสร้างเพิ่มเติมจากที่ออกแบบ หรือ VO ประมาณ 6,220 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้ต้องพิจารณารายละเอียดว่า งานใดที่สามารถดำเนินการได้ตามระเบียบ

"ประเด็นคือต้องดูว่า ในสัญญาก่อสร้างมีอะไรที่ผูกพันไว้กับผู้รับจ้างได้ทำครบถ้วนแล้วหรือไม่ หากครบแล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร ส่วนค่างานที่บอกว่ายังจ่ายไม่ครบ ให้รฟท.ไปดูว่า มีรายการใดบางที่ยังไม่ครบ และตามระเบียบกฎหมายให้ดำเนินการอย่างไร หากไม่มีระเบียบกฎหมายรองรับ ก็จ่ายไม่ได้ ส่วนการที่เอกชนจะฟ้องก็เป็นสิทธิ ส่วนภาครัฐทำได้เฉพาะที่มีระเบียบรองรับ เรื่องไหนไม่มีกฎหมายรองรับไปทำ ก็ถือว่ามีความผิด"รมว.คมนาคมกล่าว

ด้านความพร้อมของสถานีกลางบางซื่อนั้น ล่าสุด งานโยธามีความก้าวหน้าไปกว่า 99.8% แล้ว ซึ่งในการเปิดให้บริการเป็นทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านเช่น ที่จอดรถ ระบบรักษาความปลอดภัย การทำความสะอาด ร้านค้าเป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้ข้อยุติว่า รฟท.จะเป็นผู้รับผิดชอบ ออกแบบและก่อสร้างทางเดินลอดเชื่อมจากสถานีบางซื่อ (สายสีแดง) ไปยังสถานีบางซื่อของ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จทันกำหนดเปิดสถานีบางซื่อในเดือนมี.ค. 64

ขณะที่ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ทางรฟม.ยังต้องรอศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัย กรณี บมจ. ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ฟ้องกรณีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การประเมินโครงการของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และ รฟม.และคณะกรรมการมาตรา 36 ได้ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งศาลมีกำหนดให้ รฟม.ยื่นคำชี้แจง ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งหากคำวินิจฉัยออกมาอย่างไรจะต้องปฎิบัติไปตามนั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ