บริษัท นิปปอน สตีล คอร์ป ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นประกาศว่า ผลกำไรสุทธิครึ่งปีแรกสิ้นสุดที่เดือนก.ย. 2550 เพิ่มขึ้น 7.5% เป็น 1.7641 แสนล้านเยน จากเดิมที่ 1.6410 แสนล้านเยนเมื่อปีที่แล้ว อันเป็นผลมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าและราคาเหล็กกล้าที่เพิ่มขึ้น
บริษัทมีผลกำไรก่อนการหักภาษีเพิ่มขึ้น 5.6% เป็น 2.8401 แสนล้านเยน และมีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 16.8% เป็น 2.32 ล้านล้านเยน
"ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าคุณภาพสูงยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ความต้องการผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพทั่วไปก็ยังแข็งแกร่งอยู่" คิอิจิโร่ มาสึดะ รองประธานบริหารบริษัทกล่าวในการแถลงข่าว โดยความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทผลิตเหล็กดิบได้กว่า 17.64 ล้านตันในช่วงครึ่งแรกของปี เพิ่มขึ้นจากจำนวน 17.16 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว
ปริมาณและราคาของผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าที่เพิ่มมากขึ้นช่วยชดเชยผลกระทบจากต้นทุนการจัดหาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการรายปีได้
"อุตสาหกรรมเหล็กกล้าของญี่ปุ่นอาจได้รับความเสียหายราว 1 ล้านล้านเยนในปีนี้" นายมาสึดะกล่าว
ในปีงบประมาณสิ้นสุดที่เดือนมี.ค.2551 นิปปอน สตีล ยังคงคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีผลกำไรสุทธิที่ 3.65 แสนล้านเยน และมีผลกำไรก่อนหักภาษีที่ 6 แสนล้านเยน แต่ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการณ์ลงเหลือ 4.75 ล้านล้านเยน จากเดิมที่ 4.80 ล้านล้านเยน โดยอ้างว่าได้รับผลกระทบจากยอดการสร้างบ้านใหม่ที่ลดลง หลังจากที่เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมามีการประกาศใช้กฎหมายอนุมัติการสร้างบ้านใหม่ที่เข้มงวดกว่าเดิม สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์:
[email protected]