ไทยเตรียมเซ็น MOU ตั้งศูนย์นวัตกรรมอาเซียน-เกาหลีใต้ หนุนร่วมมือด้านวิทย์ฯ-เทคโนโลยี

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 11, 2022 10:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ไทยเตรียมเซ็น MOU ตั้งศูนย์นวัตกรรมอาเซียน-เกาหลีใต้ หนุนร่วมมือด้านวิทย์ฯ-เทคโนโลยี

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ไทยร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการตั้งศูนย์นวัตกรรมอุตสาหกรรมอาเซียน-เกาหลีใต้ (ASEAN-Korea Industrial Innovation Center: AKIIC) โดยการลงนามครั้งนี้ ครม. ได้เห็นชอบให้ รมว.พาณิชย์เป็นผู้ลงนาม MOU

ทั้งนี้ คาดว่าการลงนามจะจัดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ซึ่งจะทำให้การจัดตั้งศูนย์ AKIIC เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การทำวิจัยร่วมกัน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์

นางอรมน กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ AKIIC เป็นข้อริเริ่มของเกาหลีใต้ในฐานะประเทศที่มีความโดดเด่น และมีความก้าวหน้าทั้งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อร่วมมือกับอาเซียนในการพัฒนานวัตกรรม ในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้เกิดมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์ และเพิ่มขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างกัน โดยจะจัดตั้งศูนย์ AKIIC ที่ประเทศเกาหลีใต้

นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จะเป็นผู้แทนไทยร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารศูนย์ AKIIC เพื่อผลักดันความร่วมมือสาขาอุตสาหกรรมที่ไทยจะได้ประโยชน์ เช่น อุตสาหกรรม 4.0 ยานยนต์สมัยใหม่ เกษตรอัจฉริยะ แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง เครื่องมือแพทย์ และอุตสาหกรรมบันเทิง

อย่างไรก็ดี อาเซียนและเกาหลีใต้ อยู่ระหว่างศึกษาการทบทวนความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) ให้ทันสมัยและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการมากขึ้น และประเด็นที่ควรปรับปรุงความตกลงฯ ซึ่งไทยมีความสนใจประเด็นการเปิดตลาดเพิ่มเติม โดยเฉพาะการเสนอให้เกาหลีใต้เปิดตลาดสินค้าเพิ่มขึ้น เช่น มะม่วง ทุเรียน มันสำปะหลังอัดเม็ด พลาสติก พาร์ติเคิลบอร์ด สิ่งทอ และสินค้าประมง

สำหรับในปี 64 ไทยกับเกาหลีใต้มีการขยายตัวทางการค้ามากที่สุดในรอบ 30 ปี และเกาหลีใต้เป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 9 ของไทย โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,883 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 9,919 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง และไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ในส่วนของสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ทั้งนี้ จากสถิติการค้าของไทยนับตั้งแต่ที่ความตกลง AKFTA มีผลใช้บังคับเมื่อปี 53 จนถึงปี 64 พบว่าการค้ารวมของไทยมีมูลค่า 15,802 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวถึง 92%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ