ข้อมูลของรัฐบาลอินเดียระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของอินเดียพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีที่ระดับ 7% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยิ่งตอกย้ำกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอินเดียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งอาจฉุดรั้งให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง ดัชนีราคาผู้ผลิตอินเดียบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 22 มี.ค.พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากราคาอาหาร พลังงาน และโลหะในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า อินเดียมีอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 6.54% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และพุ่งแตะที่ 7% เมื่อต้นเดือนธ.ค.ปี 2547 ทูชาร์ พอดดาร์ นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า "เราคาดว่าธนาคารกลางอินเดียจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากที่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งตอนนี้เราคาดว่าธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนเม.ย. มากกว่าที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม" ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลอินเดียได้ใช้มาตรการต่างๆเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ไม่ว่าจะเป็นการปรับลดภาษีนำเข้าน้ำมันพืชและข้าวโพดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้และการยืดระยะเวลาคำสั่งห้ามส่งออกเมล็ดพืช และล่าสุดวันนี้ รัฐบาลได้ห้ามไม่ให้ส่งออกข้าวหอมพันธุ์บาสมาติเพื่อหวังที่จะเพิ่มผลผลิตข้าวในประเทศหลังจากที่ก่อนหน้านี้อินเดียได้สั่งห้ามส่งออกข้าวที่ไม่ใช่พันธุ์บาสมาติมาแล้ว นอกจากนี้ ธนาคารกลางอินเดียยังออกมากล่าวในสัปดาห์นี้ว่า ธนาคารพร้อมที่จะใช้มาตรการต่างๆเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ