ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.81/83 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-การเมืองไทย คาดกรอบพรุ่งนี้ 34.70-34.95

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 11, 2023 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.81/83 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.97 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.80 - 35.00 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ โดยยังย่อยข่าวเมื่อคืนที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความเห็นว่าจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ จะลดเหลือ 3.1% จากเดิม 4%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอติดตามการเลือกนายกรัฐมนตรีของไทยในวันที่ 13 ก.ค.นี้ด้วย ว่าจะราบรื่นหรือมีเหตุการณ์ที่ ทำให้ค่าเงินผันผวนหรือไม่ ด้านสกุลเงินในภูมิภาควันนี้ยังผันผวนในกรอบ

"ปัจจัยที่เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่า คือ ถ้าตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่คาดหรือยังอยู่ในระดับสูง เฟดอาจ พิจารณาให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย มีโอกาสทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้ และยังมีแรงกดดันเรื่องการเมืองในประเทศ ที่นักลงทุนจับตา เรื่องโหวตนายกฯ ด้วย" นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับคืนนี้ ต้องติดตามเจ้าหน้าที่เฟด ออกมาให้ความคิดเห็นเรื่องนโยบายทางการเงิน และทิศทางอัตราดอกเบี้ย

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.70 - 34.95 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 140.46/47 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 141.12 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1007/1009 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1011 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,496.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด (+0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 34,189 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 483.75 ลบ. (SET+MAI)
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศวางมือทางการเมือง และลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวม
ไทยสร้างชาติ (รทสช.)
  • หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เผยผลการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่
13 ก.ค. 66 เพื่อลงมติให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ที่ประชุมยืนยันชัดเจนให้ความเห็นชอบนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค
ก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอชื่อ
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการ GDP ปี 66 ไว้ที่ 3.7% และคงตัวเลขการส่งออกไว้ที่ -1.2% แต่ปรับลด
การบริโภคภาครัฐบาลและการลงทุน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงที่รอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีความซับซ้อน ซึ่งเป็น
โจทย์ที่รอการแก้ไข ขณะเดียวกัน ได้ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ สิ้นปี 66 เป็น 2.25% จากเดิมคาดว่าอยู่ที่ 2.00% พร้อม
คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป อยู่ที่ 1.8% ส่วนค่าเงินบาทปีนี้ คาดเฉลี่ยที่ 33.50 - 34.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ก.ค.66 อยู่ที่ระดับ 53.65 ปรับลดลง 12.06 จุด หรือ 18.36% เมื่อ
เทียบกับเดือน มิ.ย. 66 ที่ระดับ 65.71 จุด โดยมีปัจจัยมาจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
สหรัฐฯ (เฟด) รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น การแข็งค่า
ของเงินบาท และปริมาณความต้องการทองคำที่ลดลง
  • ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจากจีนและประเทศกำลังพัฒนา ประกอบกับ
การที่กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันนั้น อาจจะทำให้ตลาดน้ำมันโลกเผชิญภาวะอุปทานตึงตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้
เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงก็ตาม
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ค่าจ้างในอังกฤษ ยังคงเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจาก
เงินเฟ้อที่ยังคงสูง แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะร่วงลงมาจากระดับสูงสุดที่เกินกว่า 10% ในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่
ระดับ 8.7% โดยความล้มเหลวในการฉุดเงินเฟ้อลงทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะยังคงเดินหน้า
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไปในอีกหลายเดือนข้างหน้า
  • นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทโนมูระ คาดว่า ธนาคารกลางหลายแห่งในเอเชีย อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็ว
กว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
  • นักวิเคราะห์จากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ได้แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับทิศทางราคาบิตคอยน์ โดยคาดว่า
ราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นแตะระดับ 120,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2567 ซึ่งคิดเป็นเกือบ 4 เท่าของราคาในปัจจุบัน เนื่องจาก
นักขุดบิตคอยน์ที่ร่ำรวยเงินสดนั้น มีแนวโน้มที่จะลดการขายเหรียญบิตคอยน์
  • จีนส่งสัญญาณที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ หลังจากที่ออกมาตรการพยุงตลาดอสังหาริมทรัพย์

ที่กำลังทรุดตัวลงด้วยการขยายเวลาชำระคืนเงินกู้ให้แก่บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ