ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.18 กลับมาแข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค ตลาดจับตาคืบหน้านโยบายภาษี "ทรัมป์"-ปมกดดันเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 22, 2025 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.18 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 33.27 บาท/ดอลลาร์ กลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวใน กรอบ 33.11 - 33.29 บาท/ดอลลาร์ วันนี้นักลงทุนจ่างชาติซื้อพันธบัตรราว 2.8 พันล้านบาท

ช่วงนี้ยังไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตลาดยังคงจับตาดูความคืบหน้าการดำเนินนโยบายภาษีของประธานาธิบดี ทรัมป์ และกรณีที่มีความพยายามแทรกแซงธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ด้วยการกดดันให้ปรับลดดอกเบี้ย

"บาทเคลื่อนไหวตามราคาทองในตลาดโลก แต่กลับมาเกาะกลุ่มไปกับค่าเงินภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.10 - 33.45 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 140.46 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 141.12 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1487 ดอลลาร์/ยูโร เท่ากับเมื่อเช้า
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,144.05 จุด เพิ่มขึ้น 9.34 จุด (+0.82%) มูลค่าซื้อขายราว 35,739.07 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 142.27 ล้านบาท
  • ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบให้นายสมชาย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคาร
แห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ตามที่กระทรวงคลังเสนอ
  • นายกรัฐมนตรี ยอมรับทีมไทยแลนด์เลื่อนการเดินทางไปเจรจากับสหรัฐฯ ออกไปก่อน เนื่องจากสหรัฐฯ ขอให้ฝ่ายไทย
ทบทวนสาระสำคัญในเรื่องที่จะไปเจรจา ซึ่งจะมีการนัดหมายเจรจากันใหม่อีกครั้ง
  • รองประธาน ส.อ.ท.มองบวกกรณีสหรัฐเลื่อนเวลาการเจรจาผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ออกไป สะท้อนปัญหาของ
ไทยไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ทำให้ทีมไทยแลนด์มีเวลาและโอกาสที่จะเตรียมความพร้อมมากขึ้น
  • นายกรัฐมนตรี ปัดข่าวปรับคณะรัฐมนตรี โดยยืนยันทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ได้คิดจะปรับเปลี่ยน แต่พร้อมย้ำรับฟังความคิด
เห็นจากทุกฝ่าย ทั้งจากผลโพลและประชาชน
  • รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 533,955
คน เฉลี่ยวันละ 76,280 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 132,225 คน หรือ 19.85% ส่งผลให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่วัน
ที่ 1 ม.ค.-20 เม.ย.68 ทั้งสิ้น 11,272,379 คน สร้างรายได้เข้าประเทศแล้วประมาณ 540,688 ล้านบาท
  • ส.อ.ท.เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค.68 อยู่ที่ระดับ 91.8 ปรับตัวลดลงจาก 93.4 ในเดือน ก.
พ.68 เป็นผลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) กระทบต่อความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวและส่งผลให้เกิดการชะลอ
ตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ และปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% (เริ่ม 12 มี.ค.68) ส่งผลให้
การส่งออกไปสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักชะลอตัวลง
  • วิจัยกรุงศรี ประเมินผลกระทบจากปัจจัยคุกคามคู่ (Twin shocks) ทั้งเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปลายเดือน มี.ค.และการปรับ
ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ทำให้ GDP ปีนี้มีแนวโน้มต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ ซึ่ง ธปท.ประเมิน GDP ไทยปี
นี้เสี่ยงโตต่ำกว่า 2.5%
  • สกุลเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งค่าแตะกรอบบน 139 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ ในวันนี้ (22 เม.ย.) ทำสถิติแข็งค่าสุดใน
รอบ 7 เดือน เงินเยนแข็งค่าท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของนโยบายการเงินของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ แสดงความไม่พอใจต่อการดำเนินนโยบายการเงินของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยเรียกร้องให้พา
วเวลเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย และขู่ว่าจะปลดออกจากตำแหน่งหากไม่ทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าว
  • ผลสำรวจล่าสุดจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเผยให้เห็นว่า ธุรกิจญี่ปุ่นบางส่วนเริ่มได้รับผลกระทบจากนโยบายการเก็บภาษีนำ
เข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แล้ว ขณะที่อีกหลายบริษัทแสดงความกังวลถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น มีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐฯ สัปดาห์นี้ เพื่อเข้าร่วมการประชุมกลุ่ม G20 ซึ่งในโอกาสนี้จะพบปะหารือ
กับรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ในประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้เริ่มการเจรจาการค้าอย่าง
เป็นทางการกับสหรัฐฯ เพื่อขอผ่อนปรนมาตรการภาษีศุลกากร แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้
  • ญี่ปุ่นเตรียมส่งคณะทูตพิเศษไปเยือนจีน พร้อมมอบจดหมายจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นให้แก่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนใน
สัปดาห์นี้ เพื่อหวังหลีกเลี่ยงผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าที่รุนแรงขึ้นระหว่างจีน-สหรัฐฯ
  • นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากประธานาธิบดีโด
นัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เดินหน้าโจมตีเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด โดยได้โพสต์ข้อความล่าสุดบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียล (Truth
Social) เมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจจะชะลอตัวลง นอกเสียจากว่าพาวเวลจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงทันที
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประชุมร่วมกับผู้บริหารของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึงวอลมาร์ท (Walmart)

โฮมดีโปต์ (Home Depot) โลวส์ (Lowe's) และทาร์เก็ต (Target) เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากร ท่ามกลางความกังวล

ของทั้งบรรดาร้านค้าปลีกและผู้ซื้อชาวอเมริกันว่าภาษีใหม่จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาต้นทุนและเงินเฟ้อที่สูงอยู่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ