เงินวอนของเกาหลีใต้มีแนวโน้มอ่อนค่าลง 5% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 เนื่องจากเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ในเอเชียเผชิญภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ควอน ยุง ซัน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ อินเตอร์เนชั่นเนล เปิดเผยว่า สกุลเงินวอนของเกาหลีใต้ซึ่งดิ่งลงหนักสุดในปีนี้จะร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 1,400 ต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงสิ้นสุดไตรมาสแรกของปีหน้า ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาสู่ระดับ 1,200 ต่อดอลลาร์ในสิ้นปี 2552 ขณะที่การเปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 5.86 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาลจีนเมื่อวานนี้ไม่สามารถเปลี่ยนมุมมองของนายควอนที่มีต่อค่าเงินวอนของเกาหลีใต้ได้
"เงินวอนยังคงเผชิญแรงกดดันช่วงขาลงไปอีกสักระยะหนึ่ง" นายควอนกล่าว "เราคาดว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะทรุดตัวลงอีกเล็กน้อย โดยการขยายตัวของ GDP รายไตรมาสยังอยู่ในช่วงขาลงในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และไตรมาสแรกของปีหน้า"สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.56 น. ตามเวลาท้องถิ่น เงินวอนเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,331.25 ต่อดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 1,328 ต่อดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยในปีนี้ เงินวอนอ่อนค่าลงแล้ว 30% ซึ่งเป็นสถิติการเคลื่อนไหวของค่าเงินที่เลวร้ายที่สุดในบรรดา 10 สกุลเงินเอเชียที่ซื้อขายกันมากที่สุดซึ่งไม่นับรวมสกุลเงินเยนของญี่ปุ่น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเกาหลีใต้ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเกินความคาดหมายในช่วงเดือนที่ผ่านมา รวมทั้งใช้มาตรการค้ำประกันหนี้สินภาคธนาคารและทำข้อตกลงอัดฉีดสภาพคล่องจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อไตรมาสที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจขยายตัวที่ระดับ 0.6% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 4 ปี
ด้านฟิทช์ เรทติ้งได้ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของเกาหลีใต้ลงมาอยู่ที่ "negative" จากระดับ "stable'' โดยอ้างถึงตัวเลขทุนสำรองระหว่างประเทศที่อาจร่วงลงในยามที่เกาหลีใต้เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งรุนแรงนับตั้งแต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ยื่นมือให้ความช่วยเหลือในปี 2540 โดยทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ในเดือนต.ค.ลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ระดับ 2.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ