"ซิตี้กรุ๊ป"วางแผนยุติการบังคับจำนองบ้าน ผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างเงินกู้

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 11, 2008 10:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด เปิดเผยว่า ธนาคารวางแผนที่จะยุติการบังคับจำนองบ้านเมื่อผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ด้วยการปรับโครงสร้างเงินกู้เพื่อการซื้อบ้าน มูลค่า 2 หมื่นล้าน หลังจากธนาคารคู่แข่งรายอื่นๆดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ปวางแผนว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้านี้ธนาคารจะเจรจากับเจ้าของบ้าน 500,000 รายที่ไม่สามารถชำระเงินกู้ซื้อบ้านได้ตามกำหนดเวลา ซึ่งนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2550 เป็นต้นมา ซิตี้กรุ๊ปได้ช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว 370,000 คน หรือ คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อให้สามารถหลีกเลี่ยงการบังคับจำนอง

ก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสสหรัฐเรียกร้องให้สถาบันการเงินช่วยเหลือผู้กู้เงินและพยายามหลีกเลี่ยงการบังคับจำนอง หลังจากอัตราการบังคับจำนองอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3 ขณะที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เปิดเผยว่า ทางธนาคารจะยุติการบังคับจำนองสำหรับผู้กู้เงินบางกลุ่ม ด้วยการปรับโครงสร้างเงินกู้ซื้อบ้านมูลค่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์ และแบงค์ ออฟ อเมริกา ระบุว่า ทางธนาคารเตรียมปรับโครงสร้างเงินกู้มูลค่า 226,000 ดอลลาร์ในปีนี้

ซานจิฟ แดส ซีอีโอซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า ธนาคารพยายามช่วยลูกค้าให้รักษาบ้านเอาไว้ในยามที่เศรษฐกิจทั่วโลกเผชิญวิกฤตการณ์รุนแรง

สมาคมธนาคารเพื่อการจำนองแห่งสหรัฐ (MBA) คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านใหม่อาจร่วง 12% ในปีหน้า หลังตัวเลขการสร้างบ้านร่วงหนักเป็นประวัติการณ์

"เราคาดการณ์ว่าการลงทุนในที่อยู่อาศัยจะลดลงต่อเนื่องตลอดช่วง 6 เดือนแรกของปีหน้า เนื่องจากปริมาณบ้านกำลังล้นตลาด ขณะที่ความต้องการบ้านกลับลดลงเพราะเศรษฐกิจซบเซา" เจย์ บริงค์มานน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก MBA กล่าว นอกจากนั้นทางสมาคมยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าด้วย

MBA คาดการณ์ว่าตัวเลขการสร้างบ้านใหม่อาจลดลงเหลือ 525,000 หลังในไตรมาส 2 ของปีหน้า หรือร่วงลงกว่า 70% จากระดับสูงสุดในไตรมาส 3 ของปี 2548

ด้านราคาบ้านโดยเฉลี่ยอาจลดลงตลอดปีหน้า โดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนียและฟลอริด้า ในขณะที่อัตราว่างงานจะพุ่งแตะ 7.8% ภายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 ส่วนยอดขายบ้านอาจลดลงสูงสุดถึง 25% ในปี 2553

ดัชนีราคาบ้าน S&P/Case-Shiller แสดงให้เห็นว่าราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐร่วงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค. เนื่องจากจำนวนบ้านที่ถูกยึดมีมากขึ้นในขณะที่การใช้จ่ายผู้บริโภคหดตัวลง ซึ่งทั้งหมดบ่งชี้ว่าสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่สุดในรอบเกือบ 80 ปีจะยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


แท็ก สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ