ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของออสเตรเลียดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนต.ค.2551 ซึ่งภาวะดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในประเทศอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2534
ผลสำรวจบริษัทเอกชนกว่า 400 แห่งที่จัดทำโดย National Australia Bank Ltd. ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจดิ่งลง 21 จุดจากเดือนก.ย.มาอยู่ที่ระดับติดลบ 29 ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจในปี 2532
ความเสี่ยงของวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นายเกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 2.00% นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมามาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่งที่ 5.25% ซึ่งถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยลงมากที่สุดในรอบ 17 ปี โดยเมื่อวานนี้ ธนาคารกลางได้ส่งสัญญาณว่า อาจปรับลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อช่วยให้เศรษฐกิจรอดพ้นจากภาวะอุปสงค์ที่อ่อนแออย่างหนัก พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2551 เหลือ 1.5% จากระดับ 2%
"บรรยากาศทางธุรกิจถูกกระแสความหวั่นวิตกครอบงำอยู่มาก" อลัน ออสเตอร์ นักวิเคราะห์จาก National Australia ในเมลเบิร์นกล่าว "ความผันผวนในตลาดหุ้นยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการใช้มาตรการทางการเงินที่เร่งด่วน ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตกต่ำ และมีการหารือเรื่องภาวะถดถอยทั่วโลกอยู่เรื่อยๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่อนทำลายมุมมองในแง่บวกด้านธุรกิจทั้งสิ้น"สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:35 น. ตามเวลาในประเทศไทย เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ 66.65 เซนต์สหรัฐ/ต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 66.95 เซนต์สหรัฐ/ต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย ก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานดังกล่าว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลร่วงลงสู่ระดับ 3.63% และในปีนี้ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลงไปแล้ว 37%