ยอดส่งออกของสิงคโปร์ประจำเดือนพ.ย.ปรับตัวลดลงหนักที่สุดในรอบกว่า 6 ปี จากผลกระทบของยอดสั่งซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และยาจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ที่ซบเซา จนเป็นเหตุให้ยอดขายสินค้าในต่างประเทศร่วงลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2545
สำนักงานส่งเสริมการส่งออกสิงคโปร์เปิดเผยว่า ยอดส่งออกสินค้าที่ไม่นับรวมน้ำมันในเดือนพ.ย.ร่วงลง 17.5% จากปีก่อน และเป็นการลดลงต่อเนื่องจากระดับ 15.4% ในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังดิ่งลงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 14.5% ขณะที่ยอดส่งออกสินค้าทั้งหมดทรุดฮวบ 11.8%
เศรษฐกิจสิงคโปร์ทรุดตัวลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สิงคโปร์เผชิญภาวะถดถอยนับตั้งแต่ปี 2545 นอกจากนี้ผู้บริโภคยังปรับลดการใช้จ่ายเนื่องจากบริษัทหลายแห่งปลดพนักงาน ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าในปีหน้าสิงคโปร์จะมียอดการนำเข้า-ส่งออกที่หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
อัลวิน เหลียว นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดในสิงคโปร์กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า "รัฐบาลอาจต้องลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อกระตุ้นอุปสงค์จากต่างประเทศ แต่สิ่งที่เราเห็นในขณะนี้คือ ทุกประเทศในเอเชียต่างเผชิญชะตากรรมที่เลวร้ายแบบเดียวกัน"
ทั้งนี้ รัฐมนตรีการค้าของสิงคโปร์คาดว่า เศรษฐกิจของสิงคโปร์ในปีนี้อาจขยายตัวได้ไม่ถึงเป้าหมายที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ในระดับ 2.5% พร้อมทั้งชี้ว่าบรรยากาศทางการค้าจะพบกับอุปสรรคแสนสาหัสโดยยอดการส่งออกจะร่วงลงหนักสุดที่ 7% ในปีนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายอันเป็นผลพวงจากวิกฤตสินเชื่อ