กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.มีอยู่ทั้งสิ้น 2.234 แสนล้านเยน เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่นๆรวมถึงสหรัฐ ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงอย่างหนัก
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปีพ.ศ.2523 ที่ดุลการค้าของญี่ปุ่นติดลบเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังประเทศทั่วโลกทรุดตัวลง 26.7% คิดเป็นมูลค่าเพียง 5,326.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง ขณะที่ยอดส่งออกไปยังสหรัฐร่วงลง 33.8% นอกจากนี้ ยอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก อาทิ ตะวันออกกลาง, รัสเซีย, ยุโรปตะวันออก, ยุโรปตอนกลาง ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยยอดส่งออกสินค้าที่ร่วงลงส่วนใหญ่คือ รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์
ส่วนยอดนำเข้าสินค้าของญี่ปุ่นร่วงลง 14.4% เหลือเพียง 5,550 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก โดยราคาน้ำมันดิบโดยเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ระดับ 73.7 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 9.3% จากปีที่แล้ว
หากพิจารณาเป็นรายภูมิภาค ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐลดลง 49.2% ขณะที่ยอดเกินดุลการค้ากับสหภาพยุโรปและเอเชีย ร่วงลง 49.8% และ 78.2% ตามลำดับ โดยยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐมีมูลค่าทั้งสิ้น 3.662 แสนล้านเยน ซึ่งปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน
ยอดส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังเอเชียลดลง 26.7% เหลือเพียง 2,577.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าจากเอเชียลดลง 12.5% ซึ่งปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 นอกจากนี้ ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับจีน (ไม่นับรวมมาเก๊าและฮ่องกง) เพิ่มขึ้น 59.0% โดยยอดส่งออกสินค้าไปยังจีนลดลง 24.5% เหลือเพียง 8.556 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน