เซีย ซูเหริน รัฐมนตรีคลังจีน กล่าวผ่านทางเว็บไซต์ถึงเรื่องการรักษาสมดุลด้านงบประมาณของจีนในปีนี้ว่า เป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆที่จะรักษาสมดุลด้านงบประมาณ เนื่องสถานการณ์ภายในและนอกประเทศล้วนส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมจีนในปีนี้อย่างรุนแรง โดยยังมีปัญหาอีกมากมายที่จะต้องฝ่าฟันกว่าที่เศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รมว.คลังจีนกล่าวต่อไปว่า กองทุนรัฐบาลควรจะถูกนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่รัฐบาลได้ใช้นโยบายการเงินเชิงรุกเพื่อสนับสนุนให้มีการลงทุนในภาคสาธารณะ และการลดภาษี เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลได้เพิ่มสัดส่วนเงินคืนภาษี 3 ครั้งแล้วตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นมา รวมทั้งให้เงินชดเชยภาคการเกษตร และยกเลิกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้ออุปกรณ์ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่คาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านภาษีให้กับบริษัทเอกชนลงได้ประมาณ 1.20 แสนล้านหยวน หรือ 1.74 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี
นอกจากนี้ จีนยังมีแนวโน้มที่จะขึ้นภาษีรายได้ส่วนบุคคลขั้นต่ำ จากปัจจุบันที่ 2,000 หยวนต่อเดือน
แม้ว่า รายได้ภาคการเงินของจีนจะขยายตัว 19% จากระดับปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 6 ล้านล้านหยวน แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง กำไรบริษัทเอกชนที่ตกลง และการลดภาษีทำให้รายได้ทางการเงินของจีนในช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้วลดลง
เศรษฐกิจจีนขยายตัว 9% เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดลงของการขยายตัวในระดับตัวเลข 2 หลักเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
รมว.คลังจีนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า รายได้การเงินอาจจะลดลงต่อไปในปีนี้ ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้ใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้นในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลในระดับท้องถิ่น