นายไซมอน ครีน รัฐมนตรีกระทรวงการค้าออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ทางการจีนยังไม่ได้ตั้งข้อหานายสเติร์น หู ผู้บริหารบริษัท ริโอ ทินโต ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลียแต่อย่างใด พร้อมกับเรียกร้องให้ทางการจีนเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการกักตัวนายหูและพนักงานของบริษัทอีก 3 รายให้มากกว่านี้ เนื่องจากจีนได้กักตัวพนักงานทั้ง 4 รายมาแล้ว 2 สัปดาห์ และวันนี้ก็ย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 แล้ว
จีนได้กักตัวนายหู ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยตั้งข้อหาว่าขโมยข้อมูลที่เป็นความลับของทางการ ขณะที่ออสเตรเลียต้องการให้มีการเปิดเผยข้อมูลมากกว่านี้
ทั้งนี้ จีนซึ่งเป็นประเทศผู้ซื้อสินแร่เหล็กรายใหญ่สุดของโลก อยู่ในระหว่างการเจรจาต่อรองกับริโอ ทินโต บริษัทผู้ส่งออกสินแร่เหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เรื่องราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินแร่เหล็ก โดยจีนกล่าวหานายหูด้วยว่า ติดสินบนเจ้าหน้าที่ของจีนในระหว่างการเจรจาเรื่องสินแร่เหล็ก
บลูมเบิร์กรายงานว่า นายเควิน รัดด์ นายกฯออสเตรเลียกล่าวก่อนหน้านี้ว่า การสอบสวนนายหูและพนักงานชาวจีนของบริษัท ริโอ ทินโต 3 รายทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลียตึงเครียด ขณะที่จีนเองก็ระบุว่า ออสเตรเลียแทรกแซงอธิปไตยของประเทศ
รมว.การค้าออสเตรเลียกล่าวว่า นับเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจีนจะต้องเข้าใจถึงความเป็นห่วงเป็นใยที่ออสเตรเลียมีต่อนายหู ซึ่งยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดเท่าใด และการจัดการกับเรื่องดังกล่าวก็มีความสำคัญเสมือนเป็นการป่าวประกาศไปยังประชาชนที่ต้องการทำธุรกิจในจีน อย่างไรก็ดี นายหูได้พบกับกงสุลของออสเตรเลีย และได้รับการปฏิบัติที่ดี อีกทั้งยังสุขภาพดีอยู่
แฟรงค์ ลาวิน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสิงคโปร์สมัยรัฐบาลจอร์จ บุช กล่าวว่า จีนจำเป็นต้องปล่อยตัวนายหูโดยเร็วที่สุด หากปล่อยเรื่องนี้ให้คาราคาซังจะไม่เป็นประโยชน์และยังทำลายชื่อเสียง และทำให้บริษัทต่างๆไม่อยากจะเข้ามาลงทุนหรือทำธุรกิจด้วย