เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงใกล้แตะระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับเงินยูโรในปีนี้ก่อนที่ภาคเอกชนสหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงาน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า บริษัทในสหรัฐจะชะลอการปรับลดพนักงานในเดือนก.ค. และภาวะดังกล่าวจะทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าตัวเลขยอดค้าปลีกของยุโรปในเดือนมิ.ย.จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณให้เห็นถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในยุโรปที่เริ่มฟื้นตัว โดยเงินปอนด์เทรดขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ จากแนวโน้มข้อมูลภาคการผลิตที่ร่วงช้าลงในเดือนมิ.ย.
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09:16 น.ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 1.4415 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4408 ยูโร/ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กวานนี้ ส่วนเงินเยนเคลื่อนไหวที่ 137.37 ยูโร/เยน จากระดับ 137.21 ยูโร/เยน
เงินเยนซื้อขายที่ 95.29 ดอลลลาร์/เยน จากระดับ 95.23 ดอลลาร์/เยน ส่วนเงินปอนด์เทรดที่ 1.6946 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6939 ดอลลาร์/ปอนด์
มาซาฟูมิ ยามาโมโต้ นักวิเคระห์จากโรยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กรุ๊ป ในโตเกียวกล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ว่าเราจะได้เห็นถึงการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมากกว่าที่จะเห็นข้อมูลเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะช่วยสร้างปัจจัยหนุนให้นักลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง จนทำให้มีการเทขายเงินเยนและเงินดอลลาร์ออกมา"
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า บริษัทในสหรัฐจะปรับลดพนักงาน 350,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากที่ปลดพนักงาน 473,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ซึ่งทาง ADP Employer Services มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนในคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย