สมาพันธ์ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกของสหรัฐคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกในช่วงวันหยุดของสหรัฐส่อเค้าร่วงลงเป็นปีที่ 2 เนื่องจากผู้บริโภคควบคุมงบประมาณการใช้จ่าย ขณะที่ร้านค้าต่างพากันปรับลดราคาเพื่อเรียกลูกค้ามากขึ้น
โดยยอดค้าปลีกในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีแนวโน้มร่วงลง 1% มาอยู่ที่ 4.376 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ระดับการลดลงดังกล่าวน้อยกว่าช่วงปีที่แล้วซึ่งดิ่งหนัก 3.4% และทำสถิติลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2538
บลูมเบิร์กรายงานว่า อัตราว่างงานของสหรัฐเดือนก.ย.ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.8% ประกอบการภาวะค่าแรงที่หยุดชะงักและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังคงแกว่งตัว โดยเฉพาะเดือนก.ย.ที่ดิ่งหนักเกินคาด ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายและยังคงซื้อสินค้าจากร้านที่ลดราคาในยามที่งบการใช้จ่ายตึงตัว
นักวิเคราะห์จากสมาพันธ์ผู้ค้าปลีกระบุว่า "ขณะนี้ร้านค้าปลีกหลายแห่งต่างประโคมแคมเปญลดราคาอย่างดุเดือด เนื่องจากลูกค้าใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งพวกเขาจะรอซื้อสินค้าจนกว่าทางร้านจะลดราคาให้เป็นที่พอใจมากที่สุด"
นอกจากนี้ เขากล่าวเสริมว่า ผู้บริโภคอาจหันมาใช้วิธีซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปห้างสรรพสินค้า ซึ่งอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากงบประมาณที่วางไว้
ทั้งนี้ ทางสมาพันธ์ฯคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกไม่นับรวมยอดขายรถ ยอดขายน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันและยอดขายในร้านอาหารจะปรับตัวลดลง 3% ในปีนี้ และผู้บริโภคจะไม่สามารถต่อรองราคาได้มากเหมือนเมื่อช่วงวันหยุดปีที่แล้ว เพราะผู้ค้าได้ลดสต็อกสินค้าให้สอดรับการการใช้จ่ายผู้บริโภค