บิล อิงลิช รัฐมนตรีคลังนิวซีแลนด์เผยว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อาจเป็นภัยคุกคามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาภาคธุรกิจส่งออก
อิงลิชกล่าวว่า "วัฏจักรทางเศรษฐกิจในขณะนี้ยังไม่อยู่ขั้นที่เราจะวางใจได้ เพราะโดยปกติแล้ว การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้ แต่เห็นได้ชัดว่ายังไม่ใช่เวลานี้" บลูมเบิร์กรายงานว่า เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ไต่ระดับขึ้นสูงสุด 74.21 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ในวันนี้ และพุ่งสูงขึ้น 50% ในช่วง 7 เดือนที่แล้ว หลังมีกระแสคาดการณ์ว่านายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ตัดสินใจใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยไปแล้วในสัปดาห์นี้
คริส เทนเนนท์-บราวน์ นักวิเคราะห์จากเอเอสบีกล่าวว่า "อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ระดับนี้จะสร้างความหนักใจให้กับหลายธุรกิจ และแนวโน้มการส่งออกค่อนข้างซบเซาซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจยืดเยื้อไปจนถึงปีหน้า ซึ่งจะทำให้มีการถกเถียงกันว่าแบงก์ชาตินิวซีแลนด์อาจขึ้นดอกเบี้ยไม่ช้าก็เร็ว"
นอกจากนี้ อิงลิชกล่าวเสริมว่า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยภายนอก อาทิ เช่นการอ่อนค่าของดอลลาร์นิวซีแลนด์และความเคลื่อนไหวของออสเตรเลีย
ทั้งนี้ เศรษฐกิจนิวซีแลนด์ในไตรมาส 2 ขยายตัว 0.1% จากไตรมาสแรก ขณะที่เศรษฐกิจออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.6% และในระหว่างที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำหนักสุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่นั้น อัตราการขยายตัวของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของออสเตรเลียขยับลงเพียงเล็กน้อยในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา
ด้านความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของนิวซีแลนด์ถีบตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีในไตรมาส 3 ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่มีผลต่อรายได้ในภาคการส่งออก