สำนักงานพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) รายงานในวันนี้ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ของจีน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการค้า ใน 70 เขตเมือง พุ่งขึ้น 7.8% ในเดือนธ.ค.2552 ทำสถิติพุ่งขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 18 เดือน ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรงอาจทำให้รัฐบาลจีนต้องเพิ่มมาตรการสัดกั้นการเก็งกำไร
คณะรัฐมนตรีของจีนเตรียมออกข้อกำหนดการควบคุมการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรและการลงทุน รวมทั้งลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปล่อยเงินกู้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ หลังจากก่อนหน้านี้ธนาคารกลางจีนประกาศประกาศเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 0.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมปีนี้ เพื่อคลายความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีนที่มีอัตราขยายตัวเร็วที่สุดในโลก
การตัดสินใจของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า วิตกกังวลต่อการที่ธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยเงินกู้เป็นจำนวนเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.35 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2552 ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์
นายกรัฐมนตรีของจีนให้คำมั่นสัญญาเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ว่า รัฐบาลจะควบคุมราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่บางส่วน หลังจากราคาอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศพุ่งขึ้นรุนแรงสุดในรอบ 16 เดือน โดยนายเหวินคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของจีนจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 4% ภายในปีนี้ เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภท 1 ปีที่ระดับ 2.25% ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางจีนปรับขึ้นการสำรองสภาพคล่องอีก 1 - 1.5% ในปีนี้
อัตราการปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่ทะยานขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี 2552 โดยหนังสือพิมพ์ไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยเงินกู้ราว 1 แสนล้านหยวนในแต่ละวันตลอดสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเทียบกับอัตราการปล่อยกู้ตลอดเดือนพ.ย.2552 ที่ระดับ 2.948 แสนล้านหยวน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วในช่วงต้นปีของทุกๆปี จะเป็นช่วงเวลาที่ธนาคารพาณิชย์ของจีนจะปล่อยเงินกู้มากที่สุด