อลัน กรีนสแปน อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชี้ตัวเลขว่างงานสหรัฐยังคงอยู่ที่ระดับสูงในระยะนี้ ซึ่งเขาคาดว่าอัตราว่างงานในปีนี้จะทรงตัวอยู่ระหว่าง 9-10% ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะเริ่มช้าลงซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นร่วงลงตามมา
การแสดงความเห็นของกรีนสแปนในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานขยับลงมาอยู่ที่ระดับ 9.7% ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรลดลงในอัตราน้อยลงที่ 20,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐสูญเสียแรงงานในระบบไปแล้วถึง 8.4 ล้านตำแหน่งนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 2473 ซึ่งอัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งแตะระดับ 10% ในเดือนต.ค. ก่อนที่จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 9.7% ในเดือนทีผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กรีนสแปนกล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในไตรมาส 4 ที่ระดับ 5.7% ต่อปี ซึ่งทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 ปีนั้นได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับเพิ่มสต็อกสินค้า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มขยายตัวดีขึ้นส่งท้ายปี 2552 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐจะมีปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่งมากพอ
โดยกรีนสแปนแนะว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีการปรับขึ้นภาษี ขณะที่ปัญหาขาดดุลบัญชีที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่เป็นภัยคุกคามต่อตลาดเงิน ซึ่งทางประธานาธิบดีบารัค โอบามาคาดว่า ตัวเลขขาดดุลบัญชีจะพุ่งสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน