สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตเหล็กดิบภายในประเทศปีงบประมาณ 2552 ร่วงลง 8.6% สู่ระดับ 96.45 ล้านตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี
ส่วนในเดือนมี.ค.ปีนี้ ผลผลิตเหล็กดิบของญี่ปุ่นอยู่ที่ 93.41 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 62.8% จากปีที่แล้ว ทำสถิติเพิ่มขึ้นรายเดือนติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
ทั้งนี้ สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าญี่ปุ่นกล่าวว่า แม้ว่าดีมานด์ด้านการก่อสร้างในญี่ปุ่นยังคงซบเซา แต่ปริมาณการผลิตเหล็กดิบกลับมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกที่คาดว่าจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ล้านตันในปีนี้
ส่วนปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตเหล็กดิบปี 2552 ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นปีที่สองนั้น มาจากการร่วงลงของดีมานด์เหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์และก่อสร้าง ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
โดยผลผลิตเหล็กดิบปี 2552 น้อยกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 121.51 ล้านตันในปี 2550 อยู่กว่า 20%
นอกจากนี้ สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าระบุว่า ผลผลิตเหล็กดิบในเดือนมี.ค.แข็งแกร่งขึ้นเนื่องจากดีมานด์การส่งออกเหล็กดิบไปยังประเทศอื่นๆในเอเชียปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2493 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน