ชาร์ลส์ ไวป์ลอสซ์ นักเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Graduate Institute of International and Development Studies ชี้การอ่อนค่าของเงินยูโรเป็นเรื่องดี แม้ภาวะดังกล่าวจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้า รวมถึงความเสี่ยงที่วิกฤตหนี้สินในกรีซจะลุกลามไปยังประเทศอื่นในยุโรป
นายไวป์ลอสซ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเงินยูโรมีมูลค่าสูงกว่าความเป็นจริงมาโดยตลอด ซึ่งหลังจากที่เงินยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 0.85 ต่อดอลลาร์ในปี 2544 นั้น มาวันนี้เงินยูโรกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
"บ่อยครั้งที่คำอธิบายเรื่องการอ่อนค่าของเงินยูโรอยู่ที่ความเปราะบางของสหภาพทางการเมือง" ไวป์ลอสซ์ระบุ "แต่ขณะนี้สิ่งที่ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าคือปัญหาจากกรีซ" ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตลาดยังคงรู้สึกไม่มั่นใจ โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่ปกคลุมด้วยความวิตกกังวลต่อการประกาศแผนช่วยเหลือกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู)
นอกจากนี้ ไวป์ลอสซ์ มองว่าการประกาศแผนกู้วิกฤตการเงินของอียูถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เริ่มทำความเข้าใจถึงขอบเขตของปัญหาและหารือถึงวงเงินช่วยเหลือจำนวน 7.50 แสนล้านยูโร อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเบื้องหลังของแผนการนี้ และยังไม่มีการให้คำอธิบายอย่างเป็นรูปธรรมว่าเงินจำนวนนี้จะมาจากไหนและใครจะเป็นผู้ใช้จ่ายเงินก้อนดังกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีคลังอียูได้เห็นพ้องที่จะใช้มาตรการช่วยเหลือมูลค่า 7.50 แสนล้านยูโร (9.56 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อป้องกันมิให้วิกฤตหนี้กรีซลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป ตลอดจนเพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นในตลาดตลาดการเงินให้กลับคืนมา