นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐคาดว่า อัตราว่างงานของสหรัฐอาจปรับตัวสูงขึ้นก่อนที่จะชะลอตัวลงลงในภายหลัง
ขุนคลังสหรัฐกล่าวให้สัมภาษ์ในรายการ "Good Morning America" ของสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า "มีความเป็นไปได้ที่อัตราว่างงานในอีก 2 เดือนนี้จะพุ่งสูงขึ้น แต่เชื่อว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นไม่นานเพราะประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานแล้ว"
โดยในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาอัตราว่างงานของสหรัฐขยับลงไป 0.2% อยู่ที่ระดับ 9.5% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะมีจำนวนผู้หางานน้อยลงท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่น่าซบเซา และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐเบื้องต้นที่ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปีในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งชะลอตัวลงจากที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในไตรมาสแรกของปีนี้
อย่างไรก็ตาม ไกธ์เนอร์คาดว่าจะมีชาวสหรัฐจำนวนมากกลับเข้ามาในตลาดแรงงาน หลังจากที่ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ภาคเอกชนเพิ่มอัตราการจ้างงานโดยเฉลี่ยที่ 100,000 ต่อเดือน
ด้านเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกับไกธ์เนอร์ว่า ตลาดแรงงานจะยังไม่ฟื้นตัวในระยะนี้ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการในขณะนี้คือการเร่งช่วยเหลือผู้ตกงานเกือบ 8.5 ล้านรายในปี 2551-2552 ให้กลับมามีงานทำตามเดิม
นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์กล่าวเสริมว่า ในยามที่เศรษฐกิจสหรัฐยังต้องอาศัยเวลาอีกนานกว่าจะกลับไปขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยหนุนในภาคเอกชนส่วนใหญ่ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานในวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 9.6%