สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ส่งผลให้สัญญาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวันที่ระดับ 1,279.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุงขึ้น 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,273.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,266.10 - 1,279.50 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ แตะที่ 20.771 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.7 เซนต์ ปิดที่ 3.4935 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 6.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,611.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 10.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 549.35 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและเพื่อเก็งกำไร โดยเมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.พุ่งขึ้น 0.4% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากต้นทุนพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังคงฟื้นตัวช้า
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีกิจการการผลิตในเขตฟิลาเดลอยู่ที่ระดับ -0.7 จุดในเดือนก.ย. ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ระดับ -7.7 จุด แต่ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตในฟิลาเดลเฟียยังคงหดตัวลง นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ พุ่งขึ้นเป็น 1.233 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 ไตรมาส
อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 3,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 450,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน โดยจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงไปแล้วประมาณ 11% นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนส.ค.ที่ผ่านมา