นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตของตลาดหุ้นไทยในปีหน้าขึ้นกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก แต่เท่าที่ดูภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ปีหน้าก็น่าจะไปได้ดี และเชื่อว่าเงินทุนจากต่างประเทศยังไหลเข้ามาจากปัจจัยพื้นฐานของตัวหุ้นมากกว่าการเก็งกำไรในอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งก่อนหน้านี้มักจะเข้ามาในตลาดพันธบัตรมากกว่าอยู่แล้ว
สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยในปี 53 เติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาค แต่หากพิจารณามูลค่าการซื้อขายเป็นสกุลดอลลาร์ ถือว่าอยู่ในอันดับที่ 1 หรือ 2 แล้วแต่วัน เนื่องจากมีเม็ดเงินไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียจำนวนมาก รวมถึงไทยด้วย ส่วนปีหน้ากระแสเงินทุนไหลเข้าขึ้นกับเศรษฐกิจโดยรวมของภูมิภาคเอเชียว่าจะยังดีต่อเนื่องหรือไม่ แต่แนวโน้มก็น่าจะดีกว่าภูมิภาคอื่น อย่างน้อยก็ดีกว่ายุโรป และสหรัฐแน่นอน
นายจรัมพร กล่าวว่า การที่รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินครบทั่วประเทศ ส่งผลดีต่อความมั่นใจ โดยเฉพาะในสายตาชาวต่างชาติที่ยังมองว่าตราบใดที่ยังมี พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวอยู่ก็เท่ากับแสดงว่าสถานการณ์ไม่ปกติ แต่หลังจากปลดล็อคได้ ก็จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและการลงทุน ต่างชาติที่ต้องการเข้ามาจัดงานในประเทศไทยก็มั่นใจที่จะเข้ามา
ส่วนผลต่อตลาดหุ้นไทยนั้น น่าจะได้รับผลดีในระยะปานกลางมากกว่า แต่ในระยะสั้น เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงปลายปี นักลงทุนทั่วโลกปิดงบไปแล้ว ก็ทำให้วอลุ่มเทรดเบาบางอย่างที่เห็นในระยะนี้