ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์ด้านการเงินในยุโรปอาจทำให้หลายประเทศในกลุ่มยูโรโซนต้องปรับโครงสร้างหนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยลบจากจำนวนคนว่างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 46.64 จุด หรือ 0.8% ปิดที่ 5,963.8 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้และสถานะการคลังของประเทศยุโรป นับตั้งแต่รัฐบาลโปรตุเกสตัดสินใจขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งทำให้โปรตุเกสกลายเป็นประเทศยุโรปแห่งที่ 3 ต่อจากกรีซและไอร์แลนด์ ที่ต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงิน
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังถูกกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 เม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 27,000 ราย แตะระดับ 412,000 ราย ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเปราะบางของตลาดแรงงานสหรัฐ
หุ้นเรคกิตต์ เบนไคเซอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาบรรเทาอาการปวด Nurofen ปิดร่วง 7.5% หลังจากนายบาร์ท เบธ ผู้บริหารของบริษัทประกาศลาออก
หุ้นบีเอชพี บิลลิตันปิดร่วง 0.9% หลังจากราคาโลหะในตลาดลอนดอนร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลจีนอาจจะใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ส่วนหุ้นริโอทินโตปิดร่วง 1.3% จากการคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการของบริษัทอาจหดตัวลง 4% เนื่องจากอุทกภัยในออสเตรเลียทำให้ผลผลิตของบริษัทปรับตัวลดลงในไตรมาสแรก