PDI เผยจะเซ็นซื้อเหมืองสังกะสีมอร์คีย์ในพม่า 120ลบ.สัมปทาน 5ปี-ต่อ 5ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 29, 2011 10:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอังเดร์ วัน แดร์ เอเดน กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผาแดงอินดัสทรี (PDI) กล่าวว่า บริษัทเซาทฺ์ อีส เอเซีย เมทัลส์ (SEAMET) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 99.99% จะเข้าทำสัญญาทำกิจการเหมืองแร่สังกะสีมอร์คีย์ ประเทศพม่า กับบริษัท Mali Mining & Metallurgy Pte.Ltd (MALI) มูลค่า 120 ล้านบาท โดยจะเซ็นสัญญาเร็วที่สุดหลังจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา

เหมืองดงกล่าวได้รับการต่ออายุสัมปทานเป็นเวลา 5 ปี (11 ส.ค.53-11 ส.ค.58) และยังได้รับสิทธิในการขยายอายุสัมปทานเพิ่มเติมได้อีก 5 ปี จนถึงปี 63

ทั้งนี้ ตัวแทนจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ บริษัทเจดี พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า คาดว่าปี 54 เหมืองแห่งนี้จะผลิตแร่ได้ราว 8,000 ตัน จากนั้นในปี 55 จะเพิ่มเป็น 1.8 หมื่นตัน, ปี 56 จะเพิ่มเป็น 20,000 ตัน และปี 57 ผลิตได้ 20,000 ตัน ส่วนปี 58 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของอายุสัมปทานช่วงแรกคาดว่าจะผลิตได้ 13,333 ตัน ไม่นับรวมที่จะได้ต่ออายุสัมปทานอีก 5 ปี ดังนั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 3 ปี 9 เดือน

สำหรับการชำระเงินค่าเหมือง 120 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็น 2 ส่วน งวกแรกจ่าย 30 ล้านบาท หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ อีก 90 ล้านบาท จ่ายตามปริมาณแร่ที่ได้รับ ถ้าบริษัทไม่ได้รับก็ไม่ต้องจ่าย

นายอังเดร์ กล่าวว่า กรรมการบริษัทได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว เห็นเป็นโอกาสที่จะพัฒนาแหล่งแร่สังกะสีเพิ่มเติมจากเหมืองแม่สอดที่บริษัทมีอยู่ เพราะปัจจุบันเหมืองแม่สอดจะหมดอายุสัมปทานในอีก 6 ปี จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาแหล่งมาทดแทน ขณะที่เหมืองมอร์คีย์อยู่ใกล้กับโรงถลุงแร่ของบริษัทด้วย

พื้นที่สัมปทานเหมืองมอร์คีย์อยู่ที่ 50 ตารางไมล์ หรือ 81,581 ไร่ ซึ่งเราก็ต้องสำรวจเพิ่มเติมเชื่ออย่างมากพอควรว่าจะพบแร่เพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเลขปริมาณแร่ดังกล่าวเฉพาะที่ Mali พบ แต่โอกาสที่เราจะพบแร่เพิ่มเติมมีอีกมาก

ที่ต้องไปหาแหล่งแร่ต่างประเทศเพิ่มเติมเพราะเหตุความไม่แน่นอนในกระบวนการออกใบอนุญาตในประเทศ บริษัทจึงมุ่งเน้นไปที่การสำรวจแร่นอกประเทศมากขึ้น ประกอบกับการทำเหมืองต้องใช้เวลามากอย่างน้อย 5 ปีกว่าจะได้สำรวจ และเอาแร่ไปใช้ประโยชน์ได้ ที่เหลือกมอร์คีย์เพราะมีการสำรวจพบแล้วเอาแร่มาใช้ได้ประโยชน์ดีด้วย จึงเชื่อมั่นว่าการพบแร่ที่เราใช้ได้จะเป็นประโยชน์ต่อเราทดแทนแหล่งแร่ที่แม่สอดจะหมดอีก 6 ปี

"ในประเทศ มีปัญหาเรื่อง EIA และ HIA PDI จึงขอออกไปทำประเทศเพื่อนบ้านดีกว่า ซึ่งในไทยที่ผ่านมาขออนุมัติประทานบัตรใช้เวลานานเกิน เพราะต้องผ่านขั้นตอนมาก เพราะฉะนั้นการทำเหมืองหรือการสำรวจในไทยขณะนี้ทำได้ยาก"

ส่วนการสำรวจแร่ในเวียงจันทน์ ประเทศลาว ตอนนี้เดินมาครึ่งทางของแผนสำรวจตามกำหนด 5 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 49 ตอนนี้ผ่านไป 2 ปีครึ่ง จากสำรวจเบื้องต้นพบปริมาณแร่สำรองประมาณ 1 ล้านตัน

ณ สิ้นปี 53 บริษัทมีปริมาณแร่สำรอง 2.48 ล้านตัน คิดเป็นปริมาณโลหะสังกะสี 2.57 แสนตัน พอเพียงที่จะทำเหมืองได้อีก 6 ปี

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/54 ออกมาเป็น positive ส่วนทั้งปีนี้คาดปริมาณผลิตแร่ในปี 54 ยังคงใกล้เคียงกับปี 53 ที่ 1.19 แสนตัน คิดเป็นปรืมาณโลหะสังกะสี 2.55 หมื่นตัน ซึ่งเป็นการผลิตเต็มที่ในทุกๆ ปี นอกจากนี้ บริษัทยังคงต้องนำเข้าแร่สังกะสีจากต่างประเทศเพิ่มเติมอีกโดยนำเข้าจากออสเตรเลียและเปรูเป็นหลัก แต่ขณะนี้เหมืองออสเตรเลียบางแห่งปิดตัวลงจึงหันไปตุรกีและแอฟริกาแทน

ส่วนรายได้ของบริษัทขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาโลหะสังกะสีตลาดโลก ซึ่งแนวโน้มราคาสังกะสีในตลาด LME คาดการณ์ได้ยาก เพราะราคาขึ้นลงแบบไม่มีเหตุผลเท่าที่ควร ซึ่งคำถามนี้จะเป็นสิ่งแรกทื่ทั่วโลกถาม แต่ไม่มีใครตอบได้ และเนื่องจากโลหะสังกะสีเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาจะถูกกำหนดโดยอุปสงค์อุปทานในตลาด และผันผวนค่อนข้างสูง โดยราคา LME เฉลี่ยทั้งปี 53 อยู่ที่ 2,161 ดอลลาร์/ตัน

อนึ่ง ปี 53 PDI มีปริมาณขาย 1.06 แสนตัน เป็นแร่จากแม่สอดราว 2 หมื่นตัน และนำเข้าราว 9 หมื่นตัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ