BANPU เผยกองทุนต่างชาติขายออกทำหุ้นร่วง/เชื่อผลสหรัฐส่งออกถ่านหินกระทบตลาดช่วงสั้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 24, 2012 11:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสมฤดี ชัยมงคล ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-การเงิน บมจ.บ้านปู(BANPU) กล่าวว่า ราคาหุ้น BANPU ที่ปรับลงแรงในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลจากความกังวลการผันแปรของราคาถ่านหินในต่างประเทศ ทำให้กองทุนต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้น BANPU ขายหุ้นออกไปมาก จนขณะนี้สัดส่วนการถือครองลดเหลือต่ำกว่า 50% จากก่อนหน้านี้ที่ถือสูงกว่า 50% ประกอบกับ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทั้งยุโรปและสหรัฐ ทำให้ความต้องการใช้สินค้าลดลง รวมถึงถ่านหินด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทประเมินว่าสถานการณ์ราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลงจะเกิดขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น เพราะผลของการที่สหรัฐนำถ่านหินออกมาขายในตลาดโลกจำนวน 30 ล้านตันจะหมดไปภายใน 3 เดือน โดยถ่านหินที่นำออกจำหน่ายเป็นถ่านหินคุณภาพต่ำและขายในราคาถูกไม่มีกำไร จึงคาดว่าจะไม่สามารถยืนระยะอยู่ได้นาน

ขณะที่ตลาดสำคัญของ BANPU ในเอเชียแปซิฟิคนั้นความต้องการใช้ถ่านหินคุณภาพดียังเติบโตได้ปีละ 5% ถือว่ายังเป็นแนวโน้มที่ดี

"ถ่านหินที่ล้นตลาดคนละเกรดกับของเรา ส่วนจีนที่ยกเลิกการรับมอบถ่านหินก็ไม่เกี่ยวกับเรา เพราะลูกหลักเราเป็น เกาหลี ญี่ปุ่นเป็นหลัก การที่ยกเลิกการนำเข้าถ่านหินมองว่ามีผลต่อจิตวิทยานักลงทุนกังวลว่าจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระยะยาว"

นางสมฤดี กล่าวต่อว่า บริษัทมั่นใจว่าราคาขายถ่านหินเฉลี่ยในปี 55 จะเป็นไปตามคาดการณ์ โดยสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 97 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ซึ่งบริษัทได้ทำสัญญาขายล่วงหน้าไปแล้วกว่า 70% ส่วนที่เหลือกว่า 20% ได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินอ่อนตัวในขณะนี้บ้าง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับผลบวกจากการที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้ ช่วยลดต้นทุนขอบริษัทลงไปด้วย ทำให้บริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 48% ไว้ได้ ซึ่งบริษัทมี EBITDA ระดับ 3 หมื่นล้านบาททุกปี และมีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการลงทุนและสามารถบริหารจัดการได้แม้ว่าราคาถ่านหินลดลง โดยจะไม่ส่งผลต่อการจ่ายคืนหนี้และการจ่ายปันผลของบริษัท

สำหรับนักลงทุนต้องติดตามราคาถ่านหินอย่างใกล้ชิด ขณะที่บริษัทยังดำเนินการขายล่วงหน้าถ่านหินในปี 56 แต่จะกำหนดสัดส่วนอย่างไรคงต้องรอดูราคาถ่านหินในช่วงครึ่งปีหลังก่อน โดยจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งปกตินโยบายการขายถ่านหินล่วงหน้าอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 50% ของปริมาณการผลิตในแต่ละปี

ด้านการลงทุนซื้อเหมืองเพิ่มในอินโดนีเซียหลังราคาถ่านหินลดลงและมีโอกาสในการซื้อมากขึ้นนั้น นางสมฤดี กล่าวว่า บริษัทไม่ได้รีบร้อน เพราะต้องคำนึงถึงผลตอบแทนของผุ้ถือหุ้น รวมทั้งรักษาระดับกระแสเงินสดไว้ในระดับที่เหมาะสมก่อน แต่ในขณะนี้บริษัทได้ปรับเป้าหมายปริมาณผลผลิตถ่านหินในปี 58 ขึ้นมาเป็น 62 ล้านตัน จากเดิม 60 ล้านตัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ