GJS-W3 ปิดเทรดวันแรก 0.21 บาท สูงกว่าราคาเหมาะสมของโบรกฯที่ให้ 0.08 บ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 7, 2013 17:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

GJS-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.21 บาท มูลค่าซื้อขาย 156.22 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.21 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.23 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.19 บาท

ขณะที่หุ้นแม่ GJS ปิดตลาดที่ 0.10 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 16.66 ล้าบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.10 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.11 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.10 บาท

บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าเหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.จี เจ สตีล(GJS)ใช้ชื่อย่อ GJS-W3 คาดว่า All-in Premium จะสูงมาก เนื่องจากค่า Volatility ที่สูงถึง 94% และอายุใบสำคัญแสดงสิทธิที่ยาวถึง 7 ปี รวมทั้งอัตราการใช้สิทธิที่สูงถึง 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 4 หลักทรัพย์อ้างอิง ทำให้การปรับตัวของราคาวอร์แรนท์จะเร่งสูงขึ้น 4 เท่า หากราคาหุ้นแม่ขึ้นไปถึงอัตราใช้สิทธิที่ 0.15 บ.โดย ณ ราคาหุ้นแม่ 0.10 บาท (6 มี.ค.)ประเมินมูลค่า GJS-W3 ได้ที่ 0.08 บาท/หน่วย คิดเป็น All-in Premium 69%

พร้อมให้กรอบแกว่งของ GJS-W3 ไว้ที่ 0.05-0.54 บาท เมื่อราคาหุ้นแม่ GJS แกว่งอยู่ในกรอบ 0.07-0.17 บาท คิดจากค่า Volatility ที่ 94%

GJS-W3 ออกจำนวน 3.674 พันล้านหน่วย จัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 1 : 1.5 @ 0.08 บ. โดยทุก 10 หุ้นใหม่ ได้รับ 1 วอร์แรนท์ ฟรี (ขึ้น XR-W 26 พ.ย. 55)โดยมีอัตราใช้สิทธิ 1 : 4 @ 0.15 บาท, อายุ 7 ปี และกำหนดใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน มิ.ย. และ ธ.ค. (ใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 28 มิ.ย. 56 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 7 ก.พ. 63 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)

ทั้งนี้ GJS เป็นผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นสายผลิตภัณฑ์ดังต่อไปนี้ 1. เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน 2. เหล็กแผ่นรีดร้อนปรับสภาพผิวชนิดม้วน 3. เหล็กแผ่นรีดร้อนล้างผิวและเคลือบน้ำมัน โดย GJS ได้หยุดดำเนินกำลังการผลิตตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. 55 เนื่องมาจากประสบปัญหาในการแข่งขันกับเหล็กนำเข้าซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่าจากการหลีกเลี่ยงภาษีอากรเหล็กนำเข้า โดยการนำสารอื่นมาผสม เช่น โบรอน ทำให้อัตราภาษีลดลงจาก 5% เป็น 0% ทำให้ GJS ต้องปิดโรงงานจนถึงปัจจุบัน

แต่อย่างไรก็ตามในเดือนที่ผ่านมา รมต.พาณิชย์ได้ประกาศขึ้นภาษีเหล็กนำเข้าจากเดิมในอัตรา 0-5% เป็น 33.11% โดยมีผลบังคับใช้ 200 วัน (สามารถต่อเวลาได้) ทำให้ผู้บริหารของ GJS คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานอีกครั้งในช่วง 1Q56 ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาของ GJS รายงานผลขาดทุน 2 พันล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ขาดทุน 1.2 พันล้านบาท เนื่องจากการปิดดำเนินงาน แม้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา GJS รายงานผลขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ปีนี้ GJS มีแผนที่จะควบรวมกับ GSTEL ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการผลิตของทั้ง 2 บริษัทลง และผู้บริหารของ GSTEL เชื่อว่าผลประกอบการของธุรกิจจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในช่วง 2Q56 เป็นสิ่งที่ท้าทายและน่าติดตามอย่างใกล้ชิด


แท็ก บล.ทิสโก้  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ