(เพิ่มเติม) NCH คาดปี 56 กำไรดีกว่าปีก่อน เผยยอดขายมีโอกาสทะลุเป้า 3.2 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 5, 2013 16:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอ็น. ซี. เฮ้าส์ซิ่ง(NCH)คาดว่า กำไรสุทธิในปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 100.08 ล้านบาท เนื่องจากเป็นไปตามยอดขายและรายได้ในปีนี้ที่เติบโตขึ้น โดยยอดขายในปีนี้มีโอกาสเกินกว่าเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท ซึ่งยอดขาย 4 เดือนทำได้อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท จากยอดขายของโครงการคอนโดเนทูเรซ่าที่พัทยาได้รับกระแสตตอบรับที่ดี ทำให้โครงการในเฟสแรกเหลือน้อยมาก และบริษัทเตรียมเปิดโครงการในเฟส 2 ในเร็วๆนี้

รวมทั้ง คาดว่ายอดขายและรายได้ในไตรมาส 2/56 จะออกมาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีการเปิดโครงการมากขึ้นและมียอดขายคอนโดมิเนียมเติบโตขึ้น โดยฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่พัทยา

อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจรายได้ทั้งปี 56 สามารถทำได้ 1,800 ล้านบาทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 950 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 500 ล้านบาท ที่เหลืออีก 450 ล้านบาทจะรับรู้รายได้ในปี 57 เนื่องจากเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมเป็นส่วนใหญ่

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 8% จากปี 55 ที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7% และจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 10% ในปี 57 และอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้คาดว่าจะมากกว่า 30% จากปี 55 ซึ่งในไตรมาส 1/56 มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 33%

สำหรับแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการทั้งหมด 5 โครงการมูลค่าราว 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ และอีก 4 โครงการเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และบ้านแฝด โดยครึ่งปีแรกบริษัทเปิดโครงการแบบ Soft opening 2 โครงการ และอีก 3 โครงการจะเปิดในครึ่งปีหลัง

บริษัทยังไม่มีการพิจารณาปรับราคาขายโครงการทั้งหมดของบริษัทเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการปรับไปเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว แต่อาจจะมีการปรับราคาขายขึ้นในโครงการบางแห่งที่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและส่งผลทำให้อัตรากำไรของบริษัทลดลง

ส่วนงบซื้อที่ดินของบริษัทไม่ได้มีการตั้งงบในการซื้อที่ดินไว้เตรียม เนื่องจากนโยบายของบริษัทจะมีการมองหาทำเลที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในการพัฒนาโครงการได้ทันที ซึ่งบริษัทก็ได้มีซื้อทำเลไว้อยู่แล้ว โดยเงินลงทุนในการซื้อที่ดินจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทและเงินกู้จากสถาบันการเงินบางส่วน

ด้านแผนการขยายการลงทุนไปในต่างจังหวัด บริษัทยังไม่มีการพิจารณาในการขยายการลงทุนในตอนนี้ เนื่องจากต้องมีการพิจารณาความต้องการและภาวะเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับที่ดีก่อน บริษัทจึงจะขยายการลงทุนเข้าไปในต่างจังหวัด อย่างเช่น พัทยา สมุย และภูเก็ต เพื่อแบ่งส่วนแบ่งตลาด

“ตอนนี้เราก็ยังไม่ขยายไปต่างจังหวัด เนื่องจากเรารอดูโอกาสที่เหมาะสมเกี่ยวกับดีมานด์ในต่างจังหวัด เนื่องจากถ้าดีมานด์ในต่างจังหวัดมีมากขึ้น แสดงว่าคนก็มีความต้องการที่อยู่อาศัยมากขึ้น ประกอบกับต้องดูภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ถ้าภาวะเศรษฐกิจออกมาดีก็แสดงถึงกำลังซื้อของคนมีมากขึ้น และเมื่อ 2 อย่างมีความเหมาะสมแล้วเราก็มองโอกาสในการเข้าไปแบ่งแชร์ในตลาดอสังหาฯในต่างจังหวัด โดยจะไปลงทุนตามหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น พัทยา สมุย และภูเก็ต"นายสมเชาว์ กล่าว

ส่วนแนวโน้มฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ยังไม่เห็นสัญญาณ แต่ก็มีในบางพื้นที่ที่มี supply มาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมาก แต่แนวราบตอนนี้ยังมี supply น้อย เนื่องจากเพิ่งเริ่มฟื้นตัวหลังจากผลกระทบจากน้ำท่วม ส่วนการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มองว่าเป็นผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่มากนัก เนื่องจากปรับลดลงเล็กน้อยและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอิงกับเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ