(เพิ่มเติม) กองทุนฯโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ เปิดจอง 11 บาท/หน่วย เข้าเทรด 27 ก.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 3, 2013 14:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอมตะ บี.กริม เพาเวอร์(SPP) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดขายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์(ABPIF)ให้นักลงทุนทั่วไปจองซื้อในช่วง 9-13 ก.ย.56 ราคาเสนอขายเบื้องต้น 10.50-11.00 บาท/หน่วย ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 หน่วยที่ราคา 11 บาท/หน่วย กองทุน ABPIF มีขนาด 6.3-6.6 พันล้านบาท คาดว่ากองทุนจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 27 ก.ย.56 นี้
สาเหตุที่บริษัทตัดสินใจระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ABPIF เนื่องจากสถานการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาพรวมมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กจึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 58

ดังนั้น บริษัทจึงวางแผนสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มเป็นทั้งหมด 16 โรง ภายในปี 62 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตรวมของกลุ่มเป็น 2 พันเมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 7 หมื่นล้านบาท บริษัทจึงตัดสินใจระดมทุนส่วนหนึ่งผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อนำเงินมาใช้สร้างโรงไฟฟ้าตามแผนธุรกิจดังกล่าว ซึ่งนอกจากเป็นการลงทุนที่ช่วยพัฒนาประเทศแล้ว นักลงทุนยังได้ผลตอบแทนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการใช้ไฟฟ้าไปพร้อมกัน ปัจจุบัน อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงงานไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว 5 โรง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี 3 โรง อมตะซิตี้ระยอง 1 โรง และที่ประเทศเวียดนาม 1 โรง มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 613 เมกะวัตต์ โดยจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ มากกว่า 200 ราย รวมถึงบริษัทผลิตไฟฟ้าที่ประเทศเวียดนาม ส่วนอีก 1 โรงที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง จะสร้างแล้วเสร็จภายในปีนี้ ทำให้ภายในสิ้นปีนี้ อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จะมีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 6 โรง มีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 733 เมกะวัตต์ นางปรียานาถ กล่าวว่า กองทุนคาดว่าจะให้ผลตอบแทนในปีแรกประมาณ 15% อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีการจ่ายเงินปันผล 7% ต่อปี และบริษัทยังมองหาโอกาสขยายขนาดของกองทุนในอนาคตด้วย

"เรามองว่าก็น่าจะเป็นไปได้ที่เราอาจจะมีการขยายขนาดของกองทุน แต่เราก็ต้องมีการพูดคุย ปรึกษากับผู้ถือหุ้นจากญี่ปุ่นก่อน ถึงจะบอกได้ว่าจะเป็นยังต่อไป แต่ปัจจุบันเราก็ต้องรอดูผลตอบรับของกองทุนนี้ก่อนว่าจะเป็นอย่างไร"นางปรียนาถ กล่าว

นายจงรัก รัตนเพียร ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า กองทุน ABPIF ถือเป็นทางเลือกในการลงทุนที่ดีกับสภาวะตลาดในปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว และต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ โดยนักลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 2 ส่วน คือ เงินปันผลและเงินลงทุนที่ทยอยจ่ายด้วยการลดทุน โดยผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นภาษี ณ ที่จ่าย จากเงินปันผล เป็นเวลา 10 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ