นายสุรพล รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ DIMET เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่างวดปี 56/57 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ โดยเริ่มมีกำไรตั้งแต่สิ้นไตรมาส 2 ของงวดปีนี้ เป็นผลจากการกระตุ้นยอดขายในจุดขายและการลดต้นทุนในค่าใช้จ่ายบางส่วน ซึ่งบริษัทฯปัจจุบันขาดทุนสะสมอยู่ 12 ล้านบาท และมองว่าจะทยอยล้างขาดทุนสะสมได้หมดในงวดปี 57/58 หรืออย่างช้าในงวดปี 58/59 ขึ้นกับสถานการณ์เศรษฐกิจว่าจะฟื้นตัวได้เร็วหรือไม่
"เราพยายามพัฒนายอดขายในปีนี้ให้ดีขึ้น โดยเราจะไม่เน้นการขยายสาขา ขณะที่ท่ามกลางบรรยากาศที่ไม่ค่อยนิ่ง ยอมรับว่าปัญหาการเมือง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อที่ชะลอลงในสินค้าอุปโภคและบริโภค แต่เรายังคงมั่นใจว่าสินค้าดังกล่าวยังมีความต้องการอยู่ และมีลูกค้าอยู่ในมือ อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่ายอดขายจะไม่ดรอปและมากกว่าปีก่อน โดยยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10-15% และเราจะล้างขาดทุนสะสมได้ในงวดปี 57/58 และยืนยันว่าเราจะพลิกกลับมามีกำไรได้แน่นอน โดยมองว่าสีอุตสาหกรรมน่าจะเติบโตต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป สีไม้มีแนวโน้มลดลงจากการแข่งขันสูง สีทาอาคารมีการเติบโตแบบมีนัยสำคัญ จากการเพิ่มตัวแทนขาย และจุดขาย รวมถึงความเป็นเอกลักษณ์ของบริษัท"นายสุรพล กล่าวนายสุรพล กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายงวดปี 56/57 เติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10-15% จากการเพิ่มศักยภาพการบริการจัดการภายในองค์กร โดยเน้นการพัฒนาบุคลากรในด้านการบริการ ณ จุดขาย รวมถึงการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายเพื่อเพิ่มยอดขายของสาขาเดิมให้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางการจำหน่ายผ่านโฮมโปร 10 สาขา เมกาโฮม 2 สาขา โกลบอลเฮ้าส์ 4 สาขา หากรวมทั้งช่องทางการจัดจำหน่ายและโมเดิร์นเทรดและตัวแทนจำหน่ายแล้วจะมีทั้งสิ้น 50 แห่งทัjวประเทศ
ทั้งนี้ สีทาอาคารและสีอุตสาหกรรมจะเป็นผลิตภัณฑ์หลักในการผลักดันการเติบโตของยอดขายรวม ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ นั้น สีกันสนิมมีสัดส่วนอยู่ที่ 45% ของรายได้ สีเคลือบไม้และสีอุตสาหกรรม 25% สีทาอาคารและอื่นๆ 30% คาดว่าปีนี้สีทาอาคารจะมีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากบริษัทมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์สีทาภายในและตกแต่งเป็นหลัก
อีกทั้งบริษัทยังมีนโยบายที่จะเจาะกลุ่มตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว และพม่า บริษัทตั้งเป้าขยายสัดส่วนรายได้จากการส่งออกไปยังต่างประเทศเป็น 30% ในงวดปี 57/58 จากปัจจุบันอยู่ที่ 15%โดยคำสั่งซื้อออเดอร์จากสียืดหยุ่นจากต่างประเทศจะสรุปได้ในช่วงไตรมาส 2/57 หรือไตรมาส 3/57
ด้านงบลงทุนปีนี้ตั้งไว้ในสัดส่วน 2% ของยอดขายรวม ซึ่งใกล้เคียงกับปี 56 โดยบริษัทจะมีการลงทุนในการสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่ม และการพัฒนาการตลาด