(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นต่อตามตลาดตปท., เชื่อต่างชาติยังสะสมหุ้นไทย

นอกจากนี้ คาดว่านักลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มสะสมหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง จากความคาดหวังของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังปีนี้ตลอดไปจนถึงปี 58 โดยได้คาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ปี 58 โตมากกว่า 5%

ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยให้ติดตามการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2/57 ของประเทศจีน ซึ่งนักลงทุนคาดว่า GDP ของจีนจะขยายตัวได้ราว 7.4%

พร้อมให้แนวรับ 1,523 จุด แนวต้าน 1,539 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(14 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,055.42 จุด เพิ่มขึ้น 111.61 จุด (+0.66%),ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,977.10 จุด เพิ่มขึ้น 9.53 จุด(+0.48%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,440.42 จุด เพิ่มขึ้น 24.93 จุด(+0.56%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 57.61 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 136.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 38.12 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.05 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.56 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 5.97 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.75 จุด

ส่วนตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเผยแพร่คัมภีร์อัลกุรอ่าน

• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 ก.ค.) ที่ 1,529.23 จุด เพิ่มขึ้น 11.22 จุด (+0.74%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 394.55 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ก.ค.57
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 ก.ค.)ที่ 100.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 ก.ค.)ที่ 6.02 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.13/15 ตามภูมิภาคหลังดอลลาร์ฯกลับมาแข็งค่า
• บอร์ด "กนง.-กนส." ถกนัดแรก ห่วงฐานะการคลัง หลังรายได้ขยับเพิ่มน้อยกว่ารายจ่าย-ใช้เงินนอกงบประมาณพุ่ง ชี้เป็น ปัจจัยเสี่ยงฉุดเสถียรภาพเศรษฐกิจระยะยาว ด้านนักเศรษฐศาสตร์เตือน ความเสี่ยงเพิ่มหากดอกเบี้ยโลกขาขึ้น ดันต้นทุนภาครัฐเพิ่ม ขณะ สบน.เตรียมชง คสช.สัปดาห์หน้า แผนลงทุน 1.5 แสนล้าน กู้เพิ่ม 6.2 หมื่นล้าน
• ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)จะนำเสนอเรื่องที่เป็นปัญหาและอุปสรรคทางธุรกิจประกอบด้วยข้อเสนอ 5 เรื่องรวม 14 ประเด็น
• อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ประเมินแนวโน้มการส่งออกสินค้าไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่ากลุ่มสินค้าที่จะเป็นแรงผลักดันการส่งออกให้ขยายตัวต่อเนื่องจะยังคงเป็นกลุ่มสินค้ายานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์เครื่องใช้ไฟฟ้าและกลุ่มสินค้าอาหาร ส่งผลให้การส่งออกทั้งปีน่าจะขยายตัวได้ที่ระดับ 3.5% ตามเป้าหมาย
• ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ค้ารายใหญ่พบว่าในช่วง 1-3 เดือนนี้ ความรุนแรงในตะวันออกกลางโดยเฉพาะในประเทศอิรักมีน้ำหนักมากถึง 41% จึงมีโอกาสที่ราคาจะขยับขึ้นไปได้ แต่มีแนวต้านที่ 1,380-1,400 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ คิดเป็นราคาทองคำในประเทศบาทละ 2.1 หมื่นบาท ภายใต้สมมติฐานค่าเงินอยู่ที่ 30.8-32 บาท/เหรียญสหรัฐ
• ประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล สั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งศึกษาในส่วนของการแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 เนื่องจากใช้มาเป็นเวลานานกว่า 40 ปี ส่งผลให้การดำเนินงานบางส่วนติดขัดไม่สามารถทำได้ เช่น ระบบการจัดสรรสลาก และอาจต้องมีผลิตภัณฑ์คู่แข่งใหม่ออกมา เช่น สลากฯ 2 ตัว 3 ตัวด้วยเครื่องอัตโนมัติ(หวยออนไลน์) หวยขูดเป็นต้น เพราะการศึกษาและผลงานวิจัยที่ผ่านมา พบว่าหากมีผลิตภัณฑ์คู่แข่งแล้วจะทำให้ราคาสลากฯ ปรับลดลง
• วีซ่าเผยการเมืองกระทบยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร คาดปีนี้โตไม่ถึง 10% โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวที่ลดลงหลังต่างชาติใช้จ่าย ลดลง คาดทั้งปีต่ำกว่า 5% เผยแนวโน้มการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เติบโตต่อเนื่อง ปลายปีเล็งออกเทคโนโลยีใหม่ให้ลูกค้าโอนเงินได้ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค
• สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)เผยแผนการก่อหนี้ของรัฐบาลในปี 2558 จะมีการปรับแผนเป็นการก่อหนี้ระยะยาวมากขึ้น เช่น การออกพันธบัตรรัฐบาล อายุ 30 ปี และ 50 ปี จากเดิมที่มีสัดส่วนประมาณ 30% ก็จะเพิ่มเป็น 40% เนื่องจากการรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุนในช่วงที่ผ่านมา มีความสนใจที่จะลงทุนในพันธบัตรระยะยาวมากขึ้น ขณะเดียวกัน สบน.สามารถบริหารผลตอบแทนตราสารในระยะยาวได้คล่องตัวกว่าเมื่อเทียบกับการก่อหนี้ระยะสั้น

*หุ้นเด่นวันนี้

• NWR-W2(ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ(NWR))เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 493,690,718 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.20 บาทต่อหุ้น

• SIM (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 3.14 บาท ปลดล็อกความกังวลต่อการขายหุ้น Big lots ของ Axiata Group รวมทั้งความเชื่อมั่นผู้บริโภคและกำลังซื้อที่ดีขึ้นเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นกลับมาสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่ดี อีกทั้งระยะสั้น SIM ยังมีปัจจัยบวกแนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q57 เติบโตเด่นสุดของกลุ่ม SAMART และหุ้นสื่อสารขนาดเล็กที่ศึกษา โดยมองว่าราคาหุ้นน่าสนใจในเชิง Valuation จาก Upside 34% รวมทั้งซื้อขาย PE ปี 2557 ที่ 14 เท่า และ PEG ต่ำกว่า 1 เท่า
• TMB(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 2.70 บาท ประกาศผลประกอบการ 2Q57 วันนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดจะกำไรสุทธิที่ 1.9 พันล้านบาท เติบโตสูงสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ระดับ 21% QoQ และ 667% YoY มองคุณภาพสินทรัพย์ที่ได้รับความเสี่ยงจากปัญหาสินเชื่อรายย่อยช่วงที่ผ่านมาในระดับต่ำ ทำให้ยังรักษาคุณภาพหนี้ได้ดี ไม่กดดันการตั้งสำรอง ระยะถัดไปประเมินมีโอกาสขยายฐานสินเชื่อ SME เพิ่มขึ้น
• AOT (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 222 บาท คาดเป็น 1 เดียวในกลุ่มขนส่งทางอากาศที่รายงานกำไรปกติเติบโต yoy ในงบ 3Q56/57 (หรือเทียบเท่างบ 2Q57 ตามปีปฎิทิน) โดยคาดกำไรปกติที่ 2.86 พันล้านบาท +6.5% yoy จากค่าใช้ดอกเบี้ยลดลง -18.9% yoy เพราะทยอยคืนเงินกู้ต่อเนื่อง และราคาหุ้นมีโอกาสตอบรับเชิงบวกหากคสช.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยเฉพาะยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน คงประมาณกำไรปกติปี 56/57 เติบโต +36.4% yoy
• LPN(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 58 ที่ 25 บาท ยอด Presales ครึ่งปีแรกคิดเป็นเพียง 38% ของเป้าทั้งปี แต่เน้นโอนปีนี้ตามเป้ามากกว่าเน้นยอดจอง เพราะมี Backlog ปี 57-58 ที่ 89% และ 97% ของคาดการณ์รายได้แล้ว ไม่รีบร้อนเปิดโครงการใหม่ คาดกำไรปกติ 2Q14 ลดลง 4% Q-Q และ 58% Y-Y ตามแนวโน้มรายได้โอน แต่จะเพิ่มสูงสุดใน 3Q14 เพราะมีคอนโดครบกำหนดโอนถึง 4 โครงการ ก่อนจะชะลอลงใน 4Q14 คงประมาณการกำไรปกติปี 57-58ลดลง 0.2% Y-Y และโต 30% Y-Y ตามลำดับ