ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย:Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 26, 2014 08:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 25 ก.ย. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 66,014 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 43,842 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 66.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 18,891 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 28.6% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,700 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB236A, LB21DA และ LB196A (รุ่นอายุ 8.8 ปี, 7.3 ปี และ 4.8 ปี ตามลำดับ)โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 16,913 ล้านบาท หรือคิดเป็น 90% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน)(BH16DA) มูลค่า 227.6 ล้านบาท

2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)(BGH166A) มูลค่า 168.8 ล้านบาท

3. หุ้นกู้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)(CPALL23OB) มูลค่า 159.8 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 556.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -2,874 ล้านบาท

2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -919 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 6,232 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.01% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.01%

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้ ( 25 ก.ย. 57)

Yield Curve ค่อนข้างนิ่งในทุกช่วงอายุตราสาร เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bps. เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะ GDP ไตรมาส 2/2014 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาวันที่ 26 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะเติบโตที่ 4.5% ด้านปัจจัยในประเทศ รอติดตามรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ที่ ธปท.จะประกาศออกมาปลายเดือนนี้ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 6,232 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ