BEAUTY ตั้งเป้าปี 58 รายได้-กำไรโตไม่ต่ำกว่า 20%จากปีนี้มั่นใจได้ตามเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 26, 2014 15:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้(BEAUTY) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายทั้งรายได้และกำไรในปี 58 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ขณะที่ปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะทำรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมาย 30% หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1.3 พันล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20%

แผนงานในปีหน้า บริษัทตั้งงบลงทุนไว้กว่า 300 ล้านบาท โดยจะใช้เพื่อการขยายสาขาใหม่ราว 150-180 ล้านบาท แบ่งเป็น BEAUTY BUFFET จำนวน 30 สาขา BEAUTY COTTAGE จำนวน 20 สาขา และ BEAUTY MARKET จำนวน 15 สาขา นอกจากนั้นจะใช้ในการขยายคลังสินค้า และศูนย์ฝึกอบรมพนักงาน ซึ่งเป็นงานที่ลงทุนต่อเนื่องจากปีนี้อีก 150 ล้านบาท

นายแพทย์สุวิน กล่าวว่า บริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3% โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซียเพื่อตั้งตัวแทนจำหน่าย คาดว่าจะเซ็นสัญญากันได้ในช่วงต้นปี 58 จากปัจจุบันที่บริษัทมีตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมกลุ่ม CLMV แล้วทั้งกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม ดังนั้น เป้าหมายต่อไปคือมีตัวแทนจำหน่ายให้ครบทุกประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)

บริษัทคาดว่าจะรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิในปีหน้าไม่ให้ต่ำกว่า 20% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 67-68% แม้ว่าต้นทุนการบริหารจัดการต่างๆ จะปรับตัวสูงขึ้น แต่หลังจากที่บริษัทมียอดขายที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็สามารถต่อรองราคากับผู้ผลิตได้ ส่งผลให้บริษัทยังสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับเดิมต่อไปได้

"รายได้ปีนี้เรายังสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ถึงแม้ว่าการขยายสาขาของเราอาจจะต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อยเพราะเราเน้นเลือกจุดขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับปีหน้าเองเรามั่นใจว่ารายได้กำไรจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เพราะเราขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง และเราต่อรองกับผู้ผลิตได้มากขึ้น หลังยอดขายเราเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก จากที่เรามีตัวแทนจำหน่ายใน CLMV ทั้งหมดแล้วเป้าหมายต่อไปคือ AEC ทั้งหมด"นายแพทย์สุวิน กล่าว

นายแพทย์สุวิน กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/57 เชื่อว่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีนี้ และสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากไตรมาสสุดท้ายของปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นที่มีการจับจ่ายใช้สอยค่อนข้างมาก และในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาสนี้ก็สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ