กลยุทธ์การลงทุนรอบเช้า รวบรวมจากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ประจำวันนี้
โบรกเกอร์ แนวรับ แนวต้าน กลยุทธ์ จากบทวิเคราะห์
AECS 1,390 1,410 ดัชนียังมีโอกาสพักตัวต่อหลังยังไร้ Daily Focusปัจจัยหนุนใหม่ๆ และราคาน้ำมันที่
ปรับตัวลงคาดยังสร้างแรงกดดันต่อหุ้น
กลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดีในประเทศยังมี
ปัจจัยบวกจากความหวังในการทยอย
ออกมาตรการกระตุ้น ศก. ของภาครัฐ
ทั้งการบริโภคและการลงทุน ซึ่งน่าจะยัง
ช่วยหนุนให้มีการ Switch เปลี่ยนกลุ่ม
ลงทุนจากหุ้น Big Cap. ไปยังหุ้น
Mid-Small Cap. ที่ได้อานิสงส์แทนได้
APPLE 1,390-1,400 1,405-1,410 วันนี้ประเมินตลาดหุ้นไทยยังคงทรงตัว Theme To Play
จากผลกระทบราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวลง
ประกอบการเริ่มเข้าสู่ช่วงวันหยุด
สงกรานต์ ประเมินแนวรับที่ระดับ
1,380–1,385 จุด แนวต้าน1,410–1,420 จุด
แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบ
ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร SUPER , IFEC
(+โซล่าร์ฟาร์มราชการ ) / กลุ่มเดินเรือ
TTA,PSL,RCLและสายการบิน AAV,BA
CIMBS 1,386-1,390 1,406-1,412 คาดว่าจะมีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและ Trend Spotter
ปิโตรเคมี (จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับ
ลดลงมาต่อเนื่อง 2 สัปดาห์กว่า -5.96
ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -14%) กลุ่ม
ธนาคารและกลุ่มสื่อสาร (จากคาดการณ์
งบไตรมาส 1/16 ชะลอตัว) กดดันให้
ดัชนีปิดหลุดระดับ1,400 จุดในวันนี้และ
น่าจะมีแรงขายออกมาต่อเนื่องกดดันให้
ตลาดกลับลงไปสร้างฐานใหม่ที่ระดับ
1,375-1,380 จุด ดังนั้นเราแนะนำ
ทยอยขายทำกำไรหุ้นกลุ่มหลักออกไป
ก่อนและรอจังหวะกลับเข้าซื้ออีกครั้งที่
1,380+/- จุด
FSS 1,395-1,390 1,403-1,406 ให้แบ่งขายทำกำไรลดพอร์ตในช่วงบวก Daily Focus
1,386-1,380 1,408-1,410 ต่อ โดยเฉพาะถ้าดัชนีเข้าใกล้ 1,420 จุดหรือสูงกว่าขึ้นไป จากนั้นให้ถือเงินสด
ไว้ เพื่อรอเลือกหุ้นทยอยซื้ออีกครั้ง เมื่อ
SET ปรับตัวลงต่ำเช่นเดิม
KGI 1,399 1,402 ดัชนีฯ มีทางลงจำกัดเพราะภาพใหญ่ ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
1,389 1,413 ของฟันด์โฟลว์ยังดูไปได้ แนะกลยุทธ์เดิมคือเปลี่ยนจากหุ้นใหญ่ไปยังหุ้น
ขนาดกลางที่เชื่อมโยงมาตรการกระตุ้น
จากภาครัฐฯ ซึ่งเป็นประเด็นการลงทุน
ที่ค่อนข้างชัดเจนในระยะสั้นๆ นี้
PST 1,380 1,390-1,405 เน้นรอรับเมื่อปรับตัวลง อิงกลุ่มที่ได้รับ ครบเครื่องการลงทุน
ประโยชน์จากมาตรการลดภาษีของ กับฟิลลิปรัฐบาลในช่วงวันหยุดยาว9-17เมษายนนี้
ขณะถือพอร์ตระหว่าง 40- 60% ธีมเด่น
การลงทุน ได้แก่ หุ้นท่องเที่ยวฟื้นตัว:
แนะนำถือ AOT ต่อและตั้งรับ CPALL
กลับบนมุมมองเชิงบวกต่อการจับจ่าย
ที่มากขึ้นในช่วงเทศกาล และซื้อ SPA
เข้าพอร์ต หลังมอง Laggard กลุ่ม
ท่องเที่ยวที่ปรับขึ้นกันถ้วนหน้า ขณะที่
วานนี้ได้ทำกำไร MINT ออกไปราว
4.7% ตามเป้าหมายระยะสั้นที่กำหนด
TNS 1,386 1,412 SET มีโอกาสอ่อนตัวใน 10 วันแรกของ The Early Bird
เดือน ก่อนวันหยุดยาว ขณะที่ราคา
น้ำมันยังปรับตัวลงต่อ เนื่องจากการ
ประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่
17 เม.ย.นี้ ใกล้เข้ามา คาดยังคงไม่
สามารถตกลงกันได้ ทั้งนี้แม้เรายังมอง
SET ปรับตัวขึ้นได้ในเดือน เม.ย. จาก
สภาพคล่องโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงมาก
(ล่าสุด 10Yr Thai Bond Yield ต่ำสุดที่
1.55%) เป้า 1,430-1,460 จุด แต่ด้วย
ความเสี่ยงก่อนวันหยุดยาวจึงยังแนะนำ
“เลือกซื้อ”
TRINITY 1,388 1,425 ให้ชะลอการลงทุนต่อไป อย่างไรก็ดี Trinity Today
มองหุ้นที่น่าจะปรับตัวแข็งแกร่งกว่า
ตลาดในระยะสั้นได้แก่ 1) กลุ่มรับเหมา
ที่ Laggard อาทิ CK, UNIQ 2) กลุ่ม
เดินเรือ อาทิ PSL, TTA, RCL 3) กลุ่มที่
ได้ประโยชน์จากการปรับตัวลงของ
ราคาน้ำมัน อาทิ AAV, BA, NOK,
THAI, EPG, TASCO, ATP30 ส่วนใน
ระยะกลางยังคงชื่นชอบกลุ่มที่ได้
ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาท
ทั้งอิเล็กทรอนิกส์ (KCE, SVI, HANA)
อาหาร (CPF, TU, TFG) และ โรงแรม
(CENTEL, MINT, ERW)
UOBKHST 1,380 1,410 เก็บสะสมหุ้นที่ราคาไม่แพงและ Retail Market
มีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว และ Monitorคาดจะรายงานงบออกมาดีในปีนี้