(เพิ่มเติม) "ไอร่า แอนด์ ไอฟุล"เตรียมเข้าตลาด mai ปลายปี 60-ต้นปี 61,เร่งเพิ่มพอร์ตสินเชื่อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 27, 2016 12:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคัทสุฮิโกะ มาโดโนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า แอนด์ ไอฟุล (A&A) บริษัทในเครือ บมจ.ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) เผยว่า บริษัทมีแผนจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในช่วงปลายปี 60 ถึงต้นปี 61 แต่อาจปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขณะที่ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อจะแตะระดับ 5,000 ล้านบาทในปี 61 จากปัจจุบันที่ 1,000 ล้านบาท ตามแผนทยอยเปิดสาขาขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ทำให้ตั้งเป้าหมายปี 61 จะเริ่มมีผลประกอบการเป็นกำไร

สำหรับการปรับเกณฑ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯเรื่องการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนนั้น บริษัทได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว โดยจะปรับแผนตามความเหมาะสมของสถานการณ์นั้น จึงคาดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อแผนในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนใน mai

ส่วนสาเหตุที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนใน mai เพื่อการระดมทุนในการปล่อยสินเชื่อ โดยตามแผนจะขยายฐานลูกค้าเป็น 5 แสนบัญชีใน 3-5 ปี โดยคาดจะมียอดปล่อยสินเชื่อราว 20,000 บาท/ราย "ตามแผนที่เราจะจยายฐานลูกค้าเป็น 5 แสนบัญชีใน 5 ปี โดยคาดจะมียอดปล่อยสินเชื่อราว 20,000 บาทต่อราย ดังนั้น เบื้องต้นเราจะใช้เงินประมาณ 7,500 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะมาจากเงินระดมทุน และเงินกู้จากแบงก์ในประเทศ"นายคัทสุฮิโกะ กล่าว นายคัทสุฮิโกะ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าภายใน 3 ปี (59-61) จะมีพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด 5 พันล้านบาท จากในปีแรกที่ผ่านมามีพอร์ตสินเชื่อแล้ว 1 พันล้านบาท โดยตั้งเป้าจะขยายพอร์ตสินเชื่อ 1,500-2,000 ล้านบาท/ปี และภายใน 3-5 ปี (59-63) จะมีฐานลูกค้าแตะระดับ 5 แสนราย จากปีนี้ที่ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าเป็น 1 แสนราย ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าทั้งหมดแล้ว 6 หมื่นราย ซึ่งจากจำนวนฐานลูกค้า และการปล่อยสินเชื่อ จะส่งผลให้ใน 3-5 ปีบริษัทจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ หลังจากให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลตั้งแต่ช่วงปลายปี 58 ถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จในด้านการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลให้กับกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยเห็นได้จากรายงานการปล่อยสินเชื่อในปัจจุบันที่อยู่ในระดับ 1,000 ล้านบาท อีกทั้งยังเพิ่มสาขาและบูธอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าจำนวน 61 แห่งทั่วประเทศ และคาดว่าในไตรมาส 4/59 จะทยอยเปิดสาขาและบูธรวมกันเพิ่มอีก 14 แห่ง ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ 75 แห่งทั่วประเทศโดยเน้นที่หัวเมืองใหญ่ในทุกภูมิภาค

นายคัทสุฮิโกะ กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนกลยุทธ์การให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้แบรนด์ “A money" ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด โดยขยายสาขาและบูธเพื่อรองรับลูกค้าทั่วทุกภูมิภาค และเตรียมเพิ่มการสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มของวัยทำงานตอนต้นที่นิยมใช้สื่อออนไลน์ในการใช้ชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท นอกจากนี้ได้จับมือกับธนาคารธนชาต เพื่อให้บริการเบิกเงินผ่านตู้ ATM กว่า 2,000 ตู้ทั่วประเทศ

สำหรับช่องทางการชำระเงิน ลูกค้า A money สามารถชำระผ่านจุดบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสกว่า 12,000 แห่ง จุดบริการ One Stop เทสโก้โลตัส กว่า 8,000 แห่ง รวมถึงจุดบริการแคชเชียร์ บิ๊กซี กว่า 4,000 แห่ง และล่าสุดได้มีการทำ Co-Promotion กับบริษัท JTB Communications (Thailand) หรือ Tokyo Buzz โดยลูกค้า A money จะได้รับส่วนลดในการซื้อของออนไลน์กับ Tokyo Buzz สูงสุด ถึง 20% เพียงสมัครและกดเงินสดตามเงื่อนไขและระยะเวลาโปรโมชั่น

ในส่วนของแผนการขยายพอร์ตสินเชื่อในปี 60 นั้น บริษัทมีแผนการตลาดแบบเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและสื่อต่าง ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นตามแผนกลยุทธ์ที่บริษัทวางไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ