KBANK เผยแบงก์กสิกรไทย สปป.ลาว วางเป้าโตต่อเนื่องเน้นจับคู่ธุรกิจขยายฐานลูกค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 26, 2018 10:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพัฒนพงศ์ ตัณฑ์สมบุญ ผู้ช่วยกรรมการผุ้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ในปี 62 ธนาคารกสิรไทย สปป.ลาว ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อ 3 พันล้านบาท เงินฝากเติบโตเป็น 2 พันล้านบาท และธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเชื่อว่าจะเห็นศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจของสปป.ลาวที่ดีขึ้น

ส่วนในปีนี้มีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ 2.4 พันล้านบาท ระดมเงินฝาก 1.6 พันล้านบาท และมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท/ปี โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาการให้สินเชื่อมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 73% เงินฝากเติบโตเฉลี่ยปีละ 29% และธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศที่ผ่านเติบโตเฉลี่ยปีละ 17% โดยไม่มีปัญหาหนี้เสีย เพราะการควบคุมและจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพทำให้ยังไม่มีลูกค้าผิดนัดชำระหนี้จนเป็นหนี้เสียแม้แต่รายเดียว

พร้อมทั้งตั้งเป้าหมายอัตรผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี และเน้นการเติบโตของกำไรให้มากขึ้น โดยที่ธนาคารกสิรไทย สปป.ลาว คาดว่าจะมีกำไรในปี 61 มากกว่า 10 ล้านบาท

นายพัฒนพงศ์ กล่าวว่า สปป.ลาว ถือเป็นเป้าหมายสำคัญอีกประเทศหนึ่งที่จะเชื่อมการให้บริการตามยุทธศาสตร์การสร้างเครือข่ายการให้บริการภูมิภาคนี้ของธนาคารกสิกรไทย ทำให้ธนาคารกสิกรไทยในสปป.ลาว ได้จดทะเบียนมีสถานะเป็นธนาคารท้องถิ่นของลาว ดำเนินธุรกิจมาแล้ว 4 ปี โดยเปิดสาขาแรกคือ สาขาโพนสีนวนในปี 57 ด้วยพนักงาน 13 คน และสำนักงานใหญ่ที่ถนนล้านช้าง ในปี 60 ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 60 คน มีผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง

จากการที่รัฐบาลของสปป.ลาว ได้เปิดกว้างให้ภาคเอกชนทั้งของลาวและต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการลงทุนสำคัญๆหลายโครงการ ได้ส่งผลดีให้ภาคเศรษฐกิจของลาวมีการขยายตัวและกระจายตัวมากขึ้น โดยโครงสร้างการปล่อยกู้ของธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว แบ่งเป็น การปล่อยกู้ให้กับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ประกอบไปด้วย ภาครัฐของสปป.ลาว 33% ภาคเกษตร 19% ภาคก่อสร้าง 15% ภาคการพาณิชย์ 10% ภาคการขนส่ง 10% ภาคสินเชื่อเช่าซื้อ 8% ภาคอาหารและเครื่องดื่ม 6%

ทั้งนี้ เป็นการปล่อยกู้ให้กับกลุ่มลูกค้าท้องถิ่น สปป.ลาว (Local) 38% กลุ่มรัฐบาล สปป.ลาว (Government) 33% กลุ่มลูกค้าคนไทยที่มาลงทุนใน สปป.ลาว (TDI) 29%

การให้บริการของธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาวในปีนี้และปีต่อๆไปจะเน้นการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) สำหรับนักลงทุนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในลาว ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในธุรกิจพลังงาน ไฟฟ้า เหมืองแร่ และท่องเที่ยว และเดินหน้าพัฒนาการบริการด้านดิจิทัลแบงก์กิ้ง ซึ่งในช่วงปลายปี 61 จะเปิดให้บริการดิจิทัลแบงก์กิ้งในสปป.ลาว ด้วยบริการ QR Payment ซึ่งอยู่ระหว่างรอการอนุญาตจากธนาคารกลางของสปป.ลาว

นอกจากนี้ธนาคารยังได้ขยายการให้บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าวิสดอม (Wisdom) ที่มีเงินฝากประจำประเภท 6 เดือนขึ้นไปกับธนาคารตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปในสปป.ลาว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากเป็นธนาคารแรกและธนาคารเดียวที่ให้บริการ โดยมีลูกค้ากลุ่มบุคลลสำคัญในสปป.ลาว ให้ความไว้วางใจใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และธนาคารยังคงให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจในสปป.ลาว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีโอกาสทางธุรกิจทั้งภาคการเงินและภาคอื่นๆอีกมาก และเป็นประเทศที่ใกล้ชิดและคุ้นเคยกับประเทศไทยมากที่สุด พร้อมกับยังมีนโยบายที่จะชักชวนลูกค้าในประเทศไทยให้เข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว โดยการจัดบริการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เพื่อการค้าการลงทุนระหว่างกัน และจะช่วยให้ธนาคารกสิกรไทย สปป.ลาว ได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มาลงทุนในสปป.ลาว เป็นฐานลูกค้าที่สำคัญของธนาคารอีกกลุ่มหนึ่ง

นายพัฒนพงศ์ กล่าวอีกว่า จากการที่ธนาคารกสิกรไทยมีแผนจะขยายและต่อยอดธุรกิจในภูมิภาค AEC+3 โดยมีแผนยุทธศาสตร์ 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเปิดสาขาหรือสำนักงานที่เป็น Physical Footprint ในภูมิภาค AEC+3 โดยมีรูปแบบธนาคารท้องถิ่นจดทะเบียน (LII – Locally Incorporated Institution) สาขาธนาคารต่างประเทศ (FBB- Foreign Bank Branch) สำนักงานผู้แทนต่างประเทศ (Representative Office)

ขณะนี้ธนาคารกสิกรไทยมีสาขา ลาว กัมพูชา จีน และมีการลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยน (Maspian) ในอินโดนีเซีย รวมถึงมีสำนักงานผู้แทนในเมียนมา เวียดนาม อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น การขยายบริการด้านดิจิตอล (Digital Platform) มุ่งให้บริการทางการเงินโดยผ่าน Digital Channel และการเป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินท้องถิ่น (Partnership) ดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ