PTTEP คาดแหล่งบงกชจะเริ่มกลับมาผลิตก๊าซได้ 6 ม.ค.62 หลังพายุ"ปาบึก"เคลื่อนผ่านไปแล้ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 4, 2019 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. แจ้งว่าพายุโซนร้อน "ปาบึก" (PABUK) ในบริเวณอ่าวไทย ได้เคลื่อนตัวผ่านแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติของ ปตท.สผ. ในอ่าวไทยไปแล้วเมื่อเช้าวันนี้ โดยพนักงานและผู้รับเหมาทุกคนปลอดภัย

ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้ส่งพนักงานชุดแรกเข้าสำรวจพื้นที่แท่นผลิตก๊าซฯ บงกช เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการผลิตแล้ว ก่อนที่จะส่งพนักงานและผู้รับเหมาที่เหลือทั้งหมดกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่แท่นผลิตก๊าซฯ ต่อไป ในขณะเดียวกันได้เริ่มเคลื่อนย้ายแท่นเจาะและเรือสนับสนุนต่าง ๆ กลับเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ โดยคาดว่าจะสามารถกลับมาเริ่มผลิตก๊าซฯ จากแหล่งบงกชได้ในวันที่ 6 มกราคม 2562 ในส่วนของแท่นผลิตก๊าซฯ อาทิตย์ ยังคงดำเนินการผลิตก๊าซฯ ได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ

สำหรับผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว ปตท.สผ. ได้จัดเตรียมถุงยังชีพจำนวน 1,500 ชุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยจะประสานงานผ่านกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ และหน่วยงานราชการในพื้นที่

ด้านกระทรวงพลังงาน รายงานเพิ่มเติมว่า พายุโซร้อน"ปาบึก"ได้เคลื่อนตัวผ่านบริเวณแท่นผลิตปิโตรเลียม โดยไม่ได้สร้างความเสียหาย ซึ่งถือว่าผ่านช่วงที่วิกฤตที่สุดต่อการผลิตปิโตรเลียมไปแล้ว และได้ส่งพนักงานเข้าไปสำรวจเพื่อเตรียมการผลิต

ส่วนความคืบหน้าการติดตามและบริหารสถานการณ์พลังงานนั้น ในด้านการผลิตก๊าซธรรมชาติ การผลิตจากอ่าวไทย พื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) และจากสหภาพเมียนมา อยู่ที่ระดับประมาณ 2,725 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ต่ำกว่าระดับการผลิตตามปกติ โดยได้มีการบริหารจัดการด้วยการส่งก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 1,400 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน และลดการส่งไปในภาคปิโตรเคมี ทำให้สามารถจัดสรรก๊าซฯ ไปยังภาคไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรมและ NGV ได้ตามแผน และมีปริมาณก๊าซฯ เพียงพอที่จะรองรับสถานการณ์จนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ทั้งนี้ บริษัทผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียมมีแผนที่จะส่งพนักงานเข้าไปสำรวจสภาพแท่นและความพร้อมของอุปกรณ์ และ จะเคลื่อนย้ายพนักงานบางส่วนกลับเข้าไปทำงานนอกชายฝั่งตั้งแต่วันนี้ และมีแผนที่จะเริ่มการผลิตตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม และคาดว่าจะทยอยกลับมาผลิตได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม เป็นต้นไป

ด้านไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินดูแลระบบไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทั้งโรงไฟฟ้า สถานีส่งและระบบส่งไฟฟ้า โดยเฉพาะการเฝ้าระวังระดับน้ำ ที่ท่วมในพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลต่อสถานีส่งไฟฟ้า และมีมาตรการรองรับกรณีระดับน้ำสูงไว้แล้ว

ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้ม ประชาชนได้รับทราบว่ามีการจัดเตรียมน้ำมันสำรองเพียงพอต่อความต้องการใช้ ทำให้ไม่เกิดความตระหนกและกักตุนน้ำมันและก๊าซหุงต้ม รวมถึงผู้ค้าน้ำมันได้มีการจัดส่งน้ำมันอย่างเพียงพอ

ด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ กฟผ. ได้จัดเตรียมถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ถุง และ กลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ได้จัดส่งถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ถุง ซึ่งจัดส่งถึงพื้นที่ภาคใต้เรียบร้อยแล้ว และจะจัดส่งเพิ่มเติมอีก 4,000 ชุด ลงไปในพื้นที่อีกภายในวันที่ 5 มกราคมนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ