โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ" AAV คาดกำไรปี 62 กลับมาเติบโตรับอานิสงส์ขยายเวลาเว้นค่าธรรมเนียม VOA ส่งนทท.ฟื้นตัว-ต้นทุนน้ำมันลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 17, 2019 15:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ต่างเห็นพ้องแนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) คาดแนวโน้มผลประกอบการในปี 62 ฟื้นตัว โดยประเมินในปี 62 จะมีกำไรสุทธิ 746-880 ล้านบาท เพิ่มชึ้น 966.5% -1,158% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 69.97 ล้านบาท โดย AAV เริ่มกลับมาทำกำไรในไตรมาส 1/62 ที่ระดับ 497 ล้านบาท หลังจากขาดทุนสุทธิติดต่อกัน 3 ไตรมาสนับตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นผลจากจำนวนนักท่องเที่ยวฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลที่ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียม (Visa-on-arrival:VOA) ออกไปถึงต.ค.62

ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการของ AAV ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก็ยังเติบโตได้ โดยคาดว่าผู้โดยสารจะเติบโต 9% ขานรับปัจจัยหนุนจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วประเทศช่วงวันที่ 30 เม.ย.-30 มิ.ย.62 และการขยายระยะเวลายกเว้นค่าธรรมเนียม VOA ออกไปอีก 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.62 ประกอบกับต้นทุนน้ำมันเฉลี่ยจะลดลงจากปีก่อน จากการทำ Hedging ราคาน้ำมันในปี 62 ไว้แล้วไม่ต่ำกว่า 50% ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวลง

ช่วงบ่ายราคาหุ้น AAV อยู่ที่ 4.04 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือ 0.49% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.18%

          โบรกเกอร์                   คำแนะนำ                    ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          เคที ซีมิโก้                     ซื้อ                             5.15
          เคจีไอ                     Outperform                        5.05
          เคทีบี ฯ (ประเทศไทย)            ซื้อ                            5.00
          คิงส์ ฟอร์ด                      ซื้อ                            5.00

นายปริญญ์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวแนะนำ"ซื้อ" AAV ด้วยราคาเป้าหมายที่ 5.05 บาท จากปัจจัยสนับสนุนมาจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่กระเตื้องขึ้นในไตรมาส 4/61 และยังคงดีต่อเนื่องในไตรมาส 1/62 อีกทั้งมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลที่ขยายเวลายกเว้นค่าธรรมเนียม VOA นักท่องเที่ยว 21 ประเทศ ออกไปจนถึง ต.ค.62 หลังจากที่นักท่องเที่ยวหดตัวหนักในช่วงครึ่งหลังปี 61 ประกอบกับราคาน้ำมันอ่อนตัวลงไม่ถึง 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีก่อนที่มีราคาน้ำมันสูงมากโดยมีราคาเฉลี่ย 83 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แต่คาดว่าในปีนี้ราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ราว 82 เหรียญ/บาร์เรล

ในไตรมาส 1/62 ผลประกอบการของ AAV พลิกมามีกำไรสุทธิ 497 ล้านบาท จากที่ขาดทุนสุทธิ 306 ล้านบาทในไตรมาส 2/61 , ขาดทุนสุทธิ 358 ล้านบาทในไตรมาส 3/61 และขาดทุนสุทธิ 270 ล้านบาทในไตรมาส 4/61 โดยในไตรมาส 1/62 AAV มีจำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 5.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4% จากงวดปีก่อน และจำนวนเที่ยวบินอยู่ที่ 36,061 เที่ยว เพิ่มขึ้น 5% จากงวดปีก่อน ในขณะที่อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 90%

อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าผลประกอบการในไตรมาส 2-3 ของปีนี้น่าจะอ่อนตัวลง เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาล (Low Season) และยังมีการแข่งขันรุนแรง แต่ก็คาดว่าในไตรมาส 4/62 ผลประกอบการจะกลับมาดีขึ้นเพราะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว โดยคาดจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจีน น่าจะฟื้นตัวจากขยายเวลามาตรการ VOA

ทั้งนี้ คาดว่ากำไรสุทธิในปี 62 ที่ 746 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 966.5% จากปีที่แล้ว โดยรวมรายการพิเศษ 111 ล้านบาท ที่ AAV ต้องกันไว้จ่ายค่าชดเชยเพิ่มให้พนักงานตามกฎหมายแรงงานใหม่ อย่างไรก็ตามกำไรที่เพิ่มขึ้นในปีนี้มาจากราคาน้ำมันอ่อนตัวและผันผวนน้อยกว่าปีก่อน ขณะที่คาดกำไรสุทธิปี 63 จะอยู่ที่ 1.09 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.1% ซึ่งเชื่อว่าที่ระดับนี้ AAV มีความเสี่ยงด้าน downside น้อย และมีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในปี 62

"ในไตรมาส 1 การแข่งขันราคามีอยู่ ซึ่งโดยปกติช่วงไฮซีซั่นไม่น่าจะเห็นการเล่นราคา แต่ไตรมาส 2 คิดว่าการแข่งขันราคาเป็นเรื่องปกติ และคาดว่าไตรมาส 2 อาจจะขาดทุน จากเรื่องราคา และเป็นช่วง Low season ...ในกลุ่มแอร์ไลน์ AAV แข็งแรงกว่าในเชิงธุรกิจ การเป็นผู้นำตลาด สามารถกำหนดราคาตลาดได้"

ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า AAV รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1/62 ที่ 497 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่คาด แต่ต่ำกว่าตลาดคาด 10% โดยยังมองเป็นบวก จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัวจากในไตรมาส 4/61 ที่ขาดทุนสุทธิ 270 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยฤดูกาลที่เข้าสู่ช่วงท่องเที่ยว แต่ยังลดลง 52% เมื่อเทียบกับงวดปีก่อน จากฐานกำไรที่สูงในปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้จะกลับมาเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากจำนวนผู้โดยสารที่เติบโตโดยได้ปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว จากการขยายระยะเวลายกเว้นค่าธรรมเนียม VOA ออกไปอีก 6 เดือน เป็นสิ้นสุด 31 ต.ค.62 ซึ่งคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 62 จากฐานต่ำในปีก่อน และนักท่องเที่ยวอินเดียก็ยังเติบโตสูง ขณะที่ต้นทุนราคาน้ำมันเฉลี่ยจะลดลงจากปีก่อน เพราะมีการทำ Hedging ราคาน้ำมันปีนี้แล้ว 52% ช่วยลดความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยยังคงประเมินกำไรสุทธิทั้งปี 62 ที่ 880 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,158% จากปีที่แล้ว

บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่าผลการดำเนินงานหลักของ AAV ในไตรมาส 2/62 จะลดลงเมื่อเทียบต่อไตรมาส เพราะผ่านช่วง High Season แต่น่าจะเห็นการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้วยแรงหนุนจากสัญญาณฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงได้รับผลบวกจากการต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA ออกไปอีก 6 เดือน ตั้งแต่ 1 พ.ค.ไปจนถึง 31 ต.ค.62 อีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากมาตรการทางภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองหลักและเมืองรอง

โดยในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้ AAV เตรียมเปิดเส้นทางบินเพิ่มในตลาด CLMV และเอเชียใต้ ซึ่งมีการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และจำนวนนักท่องเที่ยว โดยเน้นในประเทศเวียดนาม กัมพูชา และอินเดีย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มอัตราการใช้เครื่องบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงฐานลูกค้าชาวจีน ซึ่งมีความเสี่ยงจากประเด็นสงครามการค้าที่อาจกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัว

เบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 62 ของ AAV ที่ 814 ล้านบาท (ยังไม่รวมตั้งสำรองค่าใช้จ่ายพนักงานตามกฏหมายแรงงานฉบับใหม่จำนวน 111 ล้านบาท) เติบโต 1,063% จากปีก่อนซึ่งเป็นฐานที่ต่ำ ภายใต้สมมติฐานจำนวนผู้โดยสารโต 7.3% จากปีก่อนที่ 23.2 ล้านคน โดยมี Load Factor ที่ 86% อย่างไรก็ตามคาดค่าโดยสารเฉลี่ยดีสุดแค่ทรงตัวเนื่องจากภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง ทำให้การปรับขึ้นราคาน่าจะยังทำได้ค่อนข้างยาก ขณะที่คาดว่าแรงกดดันด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงจากปีก่อนเนื่องจากได้ทำ Oil Hedging ไปแล้ว 52% ของปริมาณการใช้ในปี 62 ที่ราคาประมาณ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ