บลจ.กสิกรไทย ผนึกกำลังกูรูด้านนวัตกรรม-การลงทุน ปลุกกระแสรับเทรนด์โลกอนาคต พร้อมคงเป้า SET สิ้นปีนี้ที่ 1,750 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 20, 2019 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยในงานสัมมนา KAsset Investment Forum : 2040 Get Ready for the World Ahead ว่า บลจ.กสิกรไทย มุ่งพัฒนากลยุทธ์และนวัตกรรมการลงทุน ด้วยธีมการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่สอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก (Megatrends) เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนแบบยั่งยืนผ่านกองทุนรวม โดยล่าสุดกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับ Allianz Global Investors เพื่อเตรียมออกกองทุนใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

กองทุนใหม่ดังกล่าวจะเป็นกองทุนที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถมีส่วนร่วมกับกระแสที่กำลังได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกได้ ผ่านวิธีการลงทุนแบบ Thematic Investing โดยใช้กลยุทธ์การลงทุนในธีมที่หลากหลายและได้รับประโยชน์จากกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก อีกทั้งยังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ธีมการลงทุนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอโดยจะนำธีมการลงทุนใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ เข้ามาแทนที่ธีมการลงทุนเดิมซึ่งมีราคาปรับตัวขึ้นถึงจุดสูงสุด

ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับ Baillie Gifford บริษัทจัดการลงทุนสัญชาติสก็อตแลนด์ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 100 ปี ออกกองทุน K-CHANGE ซึ่งมีธีมการลงทุนที่ต้องการสร้างผลเชิงบวกให้กับสังคม เพื่อช่วยให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนใน 4 ด้าน ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการศึกษา ด้านคุณภาพชีวิต และการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากนักลงทุนได้มีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงสังคมและโลกให้ดีขึ้น และยังได้เพิ่มความหลากหลายให้กับพอร์ตการลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

นายวศิน กล่าวว่า มุมมองเศรษฐกิจและการลงทุนในครึ่งหลังของปีนี้ ตลาดโลกโดยรวมเติบโตในอัตราที่ชะลอลง โดยตัวเลขดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของประเทศแกนหลักมีแนวโน้มอ่อนแอลง ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ยังมีความไม่แน่นอน และสถานการณ์การแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปอย่างเด็ดขาด (Hard Brexit) ขณะที่ธนาคารกลางประเทศแกนหลักยังคงส่งสัญญาณผ่อนคลายต่อนโยบายการเงินมากขึ้นเพื่อรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ไทยปรับตัวลดลงตาม โดยยังคงคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มทรงตัวไปอย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2562

ด้านตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยสนับสนุนจากปัจจัยภายในประเทศ โดยเสถียรภาพของรัฐบาลที่ได้จะมีความสำคัญต่อภาวะการลงทุนในระยะถัดไป อีกทั้งการกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคภายในประเทศจะเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ทดแทนการส่งออกที่คาดว่าจะยังคงได้รับผลกระทบจากการค้าโลกที่เติบโตช้าลง ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังคงเป้าหมาย SET Index ณ สิ้นปี 2562 ที่ระดับ 1,750 จุด คาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน (EPS ปี 2562) ที่ 14% Forward PE ที่ 16.1 เท่า และ Dividend Yield ที่ประมาณ 3.4%

สำหรับบลจ.กสิกรไทย ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนรวมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยกองทุนส่วนบุคคลมีตัวเลขเติบโตสูงสุด เมื่อเทียบกับ 3 ธุรกิจ โดยเติบโตที่ 24.2% ขณะที่มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) รวมอยู่ที่ 1.34 ล้านล้านบาท โดยแยกเป็นรายธุรกิจในส่วนกองทุนรวมอยู่ที่ 1.01 ล้านล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 1.75 แสนล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคล 1.53 แสนล้านบาท (ข้อมูลจาก บลจ.กสิกรไทย ณ 31 พ.ค. 2562)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ