ILM ปิดเทรดวันแรกที่ 22.90 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 4.09%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 26, 2019 16:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น ILM ปิดเทรดวันแรกที่ 22.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท (+4.09%) จากราคาขาย IPO ที่ 22 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,767.25 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 22.30 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 23.60 บาท และราคาลงต่ำสุด 22.20 บาท

บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) ให้ราคาเป้าหมาย 27 บาท โดยคาดกำไรมีการเติบโตอย่างมั่นคง และยังมีอัพไซด์ที่จะเกิดขึ้นจากการลดค่าใช้จ่ายในอนาคต โดยยังมองว่าหากกำลังซื้อมีการฟืนตัวจากกลุ่ม middle income ซึ่ง ILM จะได้ประโยชน์ เนื่องจากเป็นกลุ่มเป้าหมาย

ทั้งนี้ ราคา IPO คิดเป็น PER ปี 2019 ที่ 20.1 เท่าต่ำกว่า HMPRO ที่ 35.3 เท่า และ GLOBAL ททที่ 32.9 เท่า ในด้านของกำไรคาดกำไรหลักในครึ่งปีแรก H1/62 ที่ 300 ล้านบาท โดยคาดกำไรสุทธิจะพลิกกลับเป็นกำไร YoY (มีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิดสาขาที่มาเลเซียในปีที่แล้ว) และเติบโต QoQ

ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะ"ซื้อ"หุ้น ILM ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ ILM ปี 2562 ที่ 27.50 บาท/หุ้น ด้วยวิธี PER method อิง PER target ที่ 25.0x และ EPS 19F ที่ 1.1x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ PER target 19F ของกลุ่มค้าปลีกในประเทศไทยที่ 28.0x และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ PER กลุ่มค้าปลีกย้อนหลัง 5 ปีที่ 30.0x

ทั้งนี้ มอง ILM น่าสนใจจากการเป็นผู้นำค้าปลีกในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศไทยด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 20% บวกกับชอบกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งด้านของคอนเซ็ปของผลิตภัณฑ์ ความทันสมัยของเทคโนโลยีการผลิต และความพร้อมของโรงงาน และด้วยจุดเด่นเหนือคู่แข่งที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้มองว่า ILM มีแนวโน้มจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ILM เป็นผู้นำค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของใช้ภายในบ้านที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในไทยด้วยแบรนด์ Index Living Mall และ Winner โดยจุดเด่นของ ILM ที่เหนือกว่าคู่แข่งคือ 1) สินค้าที่หลากหลายและครอบคลุม โดย Index Living Mall มีจำนวนสินค้าวางขายมากกว่า 33,000 SKUs ทำให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้หลายกลุ่ม 2) ความพร้อมในด้านโรงงานการผลิต 3) การเป็นผู้นำในด้านของเทคโนโลยีแบบ automate และ 4) การมีธุรกิจพื้นที่ให้เช่าหรือคอมมูนิตี้มอลล์ที่เป็นจุดดึงดูดสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้าหลักมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังชอบ ILM จากแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของกำไรสุทธิปี 2562-2564 ที่ +17%CAGR ด้วยปัจจัยหนุนอย่าง 1) การเติบโตของแบรนด์ Younique และ 2) แผนการขยายสาขา ILM และการขยายสาขาในต่างจังหวัดผ่านร้าน Winner Furniture Center อย่างรวดเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ