"วิลล่า คุณาลัย"ขายหุ้น IPO ปีนี้ระดมทุนซื้อที่ดิน-รองรับพัฒนาโครงการใหม่ วางเป้าขยายโครงการ 4 ทิศรอบกทม.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 7, 2019 12:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.วิลล่า คุณาลัย (KUN) เปิดเผยแผนการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ในช่วงปลายปีนี้

บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 150 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท และมีทุนที่เรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท ภายหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มขึ้นเต็มจำนวน

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้ขยายธุรกิจ โดยเฉพาะการใช้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมในอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ และจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อขยายกิจการในอนาคต โดยมีแผนพัฒนาและขยายโครงการในทำเลอื่นๆ ให้ครบ 4 ทิศรอบกรุงเทพมหานคร ทั้งเหนือ, ใต้, ตะวันออก, ตะวันตก ตามนโยบายและวิสัยทัศน์ของบริษัทเพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งของแบรนด์ ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบในเขตปริมณฑล

การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทยึดหลัก 4 ด้าน คือ ทำเลศักยภาพ (COMFORTABLE) บ้านสวยในโครงการที่อบอุ่น (APPEARANCE) ทีมงานมืออาชีพ (RELIABLE) คุณภาพสมราคา (ECONOMY)

ทั้งนี้ โครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่กลุ่มบริษัทดำเนินการอยู่ทั้งหมด 7 โครงการ อยู่ภายใต้แบรนด์ คุณาลัย บีกินส์ (Kunalai Begins) คือ ทาวน์โฮม ส่วนอีก 3 แบรนด์จะเน้นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรืออาคารพาณิชย์ ได้แก่ คุณาลัย ซิมโฟนี (Kunalai Symphony) คุณาลัย พอลเลน (Kunalai Pollen) และคุณาลัย จอย (Kunalai Joy) ซึ่งโครงการทั้งหมดพัฒนาโดยบริษัท และบริษัท วิลล่า วาณิช จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อย

นางประวีรัตน์ กล่าวว่า การพัฒนาแต่ละโครงการจะเน้นพื้นที่ในเขตปริมณฑล โดยเฉพาะอำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งพื้นที่ย่านบางบัวทองที่ถือเป็นทำเลหลัก และล่าสุดได้พัฒนาโครงการใหม่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ภายใต้ชื่อ "คุณาลัย จอย ออน 314" บนพื้นที่ราว 24 ไร่

บริษัทมองว่าทำเลในจังหวัดฉะเชิงเทรามีศักยภาพเติบโต และมีความต้องการที่อยู่อาศัยค่อนข้างมาก เช่นเดียวกับย่านบางบัวทอง ประกอบกับเขตพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จากวางยุทธศาสตร์ของรัฐบาล แสดงให้เห็นว่าฉะเชิงเทราจะเป็นเมืองใหม่แห่งใหม่ของการอยู่อาศัย ซึ่งตอบโจทย์" วิลล่า คุณาลัย"ที่มีจุดเด่นในการสร้างเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดี

บริษัทมีโครงการที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,904.73 ล้านบาท และโครงการในอนาคต 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,172 ล้านบาท ประกอบด้วย คุณาลัย จอย 2 เป็นบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว 2 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี คาดว่าจะเปิดขายในไตรมาส 2/63 และ รวิลล่า วาณิช เป็นอาคารพาณิชย์ มูลค่าโครงการประมาณ 672 ล้านบาท ตั้งอยู่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างและเปิดขายได้ในปี 64-65

ด้านนางปิยะภา จงเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 14 แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า KUN ถือเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบย่านบางบัวทอง โดยมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจ ภายใต้แนวคิดการพัฒนาโครงการเมืองที่อยู่อาศัยที่สมบูรณ์แบบที่สุดในย่านดังกล่าว

ทั้งนี้ KUN เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างแบรนด์ได้แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากประสบการณ์และกลยุทธ์ในการเจาะตลาดในย่านบางบัวทองกว่า 10 ปี ทำให้สามารถตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าในโซนดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 59-61) กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม เท่ากับ 297.50 ล้านบาท, 450.38 ล้านบาท และ 447.09 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 5.94 ล้านบาท, 10.80 ล้านบาท และ 11.56 ล้านบาทตามลำดับ โดยรายได้รวมเติบโตขึ้นตามรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการทยอยเปิดขายโครงการเพิ่มขึ้น

ขณะที่งวด 9 เดือนปี 62 บริษัทมีรายได้ 461.09 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 43.15 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายหลักมาจากโครงการคุณาลัย จอยที่เริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงไตรมาส 1/62 เป็นต้นมา และโครงการคุณาลัย ซิมโฟนี ที่มีการปรับปรุงแบบบ้านใหม่ โดยสินค้าบ้านเดี่ยวเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีของกลุ่มบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้อานิสงส์จากมาตรกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยรัฐบาลจะลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดทะเบียนการจำนองสำหรับบ้านที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ดังนั้น จากแนวโน้มการเติบโตของบริษัทแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งทางธุรกิจที่จะนำพาไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ